Author: yoyo

ครั้งแรกของการรวมสุดยอดเชฟชื่อดังจากสามประเทศ Henrik Yde Andersen แห่งร้าน Kiin Kiin โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เชฟเบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์ แห่งห้องอาหาร Sra Bua By Kiin Kiin และ เชฟ Malcolm Lee แห่ง Candlenut ประเทศสิงคโปร์ ที่จะมาร่วมกันรังสรรค์อาหารต่างสไตล์ให้เข้ากันเป็นหนึ่ง สัมผัสความอร่อยกับอาหารสไตล์เปอรานากันผสมผสานรสชาติอาหารแบบไทยในรูปแบบ 6 คอร์สที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรับประทานอาหารให้กับเหล่าบรรดานักชิมทั่วประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล์ [email protected] Kinlakestars.com MICHELIN Guide Dinning Series 2nd Edition KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

Read More

ต้อนรับบรรยากาศของเดือนแห่งความรักด้วยอาหารชั้นเลิศบนดาดฟ้าชั้น 38 ณ Zoom Anantara Sathorn กับบรรยากาศสุดโรแมนติกด้วยทัศนียภาพของโค้งน้ำเจ้าพระยา และแสงประกายระยิบระยับของวิวเมืองกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืน   มื้อค่ำแสนโรแมนติกบนชั้นดาดฟ้า เคล้าเสียงดนตรี ที่ ซูม สกาย บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ (ZOOM Sky Bar & Restaurant) ฉลองวันแห่งความรักด้วยความโรแมนติกอย่างไม่สิ้นสุดบนชั้นดาดฟ้า โต๊ะทุกโต๊ะนั้นถูกจัดขึ้นมาสำหรับวาเลนไทน์ เพื่อที่คู่รักทุกคู่นั้นจะได้รับชมวิวของกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา จิบเครื่องดื่มท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวง ลิ้มรสความอร่อยของอาหารชั้นเลิศ 5 คอร์ส เริ่มต้นจานแรกด้วย Vitamins and Mineral (Oyster/Caviar/Lime/Mulberries) หอยนางรมสดขนาดใหญ่ เนื้อหวานฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับคาร์เวียร์ เพิ่มความสดชื่นด้วยไลม์และมัลเบอร์รี่ ทำให้รสชาติกลมกล่อม เหมาะกับเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย จานที่สอง Harbour (Fresh bonito fish/Sea urchin/Avocado/Chili/Seaweed stock/Black truffle) จานนี้เชฟยกความสดจากท้องทะเลมาอยู่บนจานด้วยเนื้อปลาโบนิโตะสด ซึ่งปกติเจ้าปลาชนิดนี้ผู้คนมักคุ้นเคยในกลิ่นของมัน เพราะมันมักจะถูกนำมาใช้ทำเป็นผงปลาแห้ง สำหรับโรยข้าว โรยราเมง หรือเอามาต้มทำซุปนั่นเอง แต่ในครั้งนี้เชฟเอามาทำแบบสดๆ หอยเม่น และสาหร่ายทะเล สัมผัสได้ถึงความหวานสดของเนื้อปลา และความกรุบกรอบของสาหร่ายทะเล และตัวสาหร่ายเองก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ให้รสอูมามิ เพิ่มรสมันๆนุ่มๆด้วยอะโวคาโด กลิ่นทรัฟเฟิลทั้งจากทรัฟเฟิลดำสดและทรัฟเฟิลออยจากทรัฟเฟิลขาว ซึ่งหอมอบอวล และเจือความเผ็ดอ่อนๆด้วย Indian chili ซึ่งโดยรวมรสชาติละมุนกำลังพอดี ไม่อ่อนหรือจัดจ้านเกินไป Chef Gibb’s Surf ‘N’ Turf (Diver scallop/Foie gras/Smoked duck/Pink ginger/Crispy quinoa/Shallot infused apple/Vanilla oil) ผลงานรังสรรค์ของเชฟกิ๊บ โดยผสานความนุ่มละมุนของ scallop และ ฟัวกราส์ เข้ากับความกรุบกรอบของหนังเป็ดซึ่งผ่านกระบวนการ dehydration และควินัว เพิ่มความอร่อยด้วย Pink ginger gel, shallot infused apple และ…

Read More

ตั้งแต่วันที่ 14 – 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 นี้ เชฟชาน ยิ้ว แลม แลม เชฟใหญ่ผู้มากด้วยประสบการณ์อยู่ในวงการอาหารจีนกว่า 40 ปี ยอดเชฟมือทองแห่งภัตตาคารอาหารจีน ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน (สาขาอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 8) ขอเชิญท่านและครอบครัวที่รักมาร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนเพื่อต้อนรับปีนักษัตร ปีจอเรืองรองที่กำลังจะมาถึง พร้อมอิ่มหนำไปกับหลากหลายเมนูอาหารจีน 8 เมนูเสริมมงคลชีวิต ซึ่งพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงตั้งแต่วัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และมีความหมายอันเป็นมงคล ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยสนนราคาสำหรับ 10 ท่าน อยู่ที่ 13,388+บาท เริ่มต้นที่เมนู 1. สลัดปลาแซลมอน เป๋าฮื้อ และหอยเชลล์ฮอกไกโด เชฟเลือกเนื้อปลาแซลมอน พร้อมด้วยเป๋าฮื้อ ชั้นดีนำเข้าจากฮ่องกง ทำเป็นเส้น คลุกเคล้ากับ แคนตาลูป ขิงดอง หอมซอยเส้น ราดซอสน้ำมันงา เสมือนความเบิกบานของชีวิต นำทุกอย่างมาคลุกเคล้ากัน เรียกว่า “โหล่วเหย” โดยใช้ตะเกียบยกส่วนผสมทุกอย่างในจาน ยกขึ้นให้สูงที่สุด ยิ่งสูงเท่าไหร่ เงินทองจะยิ่งเข้ากระเป๋าเท่านั้น นอกจากนี้ เป๋าฮื้อ ยังความหมายถึงโชคลาภอีกด้วย 2. ซุปหูฉลามเยื่อไผ่น้ำแดง ซุปหูฉลามรสชาติกลมกล่อม คัดสรรหูฉลามแผ่นใหญ่นำมาตุ๋นจนเข้าเนื้อ เสริมมงคลชีวิตเรื่องความมั่งคั่ง 3. เป็ดอบชาเขียว คัดเลือกเป็ดพันธุ์เชอรี่ตัวโตนำมาอบด้วยชาเขียว ให้สุกเนื้อนุ่ม หนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสชาเขียวเข้มข้น ทานคู่กับหมั่นโถว เมนูนี้เสมือนความสามารถการทำงานที่จะเลื่อนขั้น 4. ขาหมูสาหร่ายเส้นผมน้ำแดง ขาหมูตงปอตุ๋นเครื่องยาจีน นุ่มๆ รสชาติกลมกล่อม เปรียบเสมือน ความขยัน ยิ่งทำยิ่งดีขึ้น ส่วนสาหร่าย หมายถึง ความร่ำรวย มั่งคั่ง 5. ขาห่าน เห็ดหอม เต้าหู้ และสาหร่ายเส้นผมน้ำมันหอย อีกหนึ่งเมนูสุขภาพ ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำมาผัดน้ำมันหอย กลิ่นหอมชวนรับประทาน เห็ดหอม ที่เสมือนเงินทอง ขาห่าน คือ ความแข็งแรง รวมเป็นเมนูมงคลเสริมความร่ำรวย 6.ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว…

Read More

ในเดือนพฤศจิกายน โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเต็ล ภูมิใจต้อนรับสองเชฟ ผู้มีชื่อเสียงจากสองร้านอาหารมิชลินสตาร์ชื่อดัง ที่ห้องอาหารรอสซินีส์ เชฟ Antimo Mereno พ่อครัวใหญ่ประจำร้านอาหารชื่อดัง “8½ Otto Mezzo Bombana” ที่ได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “The Fine Dining Lovers Guest Chef Series” จากซาน เพลลีกรีโน จะมาปรุงมื้ออาหารสุดพิเศษและเอาใจคนรักอาหารอิตาเลี่ยนด้วยเมนูอาลาคาร์ทและเซ็ทเมนูไวน์แพริ่งจากอแลลิกรินี่ (Allegrini) ในวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนและเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน และไวน์ดินเนอร์ในเย็นวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนเท่านั้น เชฟ Antimo นำเสนอเมนูจานเด่น อาทิ อาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Hokkaido king crab with fennel emulsion, Amalfi lemon and Oscietra caviar – ปูฮอกไกโดยักษ์ เสิร์ฟคู่กับซอสเฟนเนล โรยด้วยอมัลฟีเลม่อนและไข่ปลาคาเวียร์โอสซีตรา ทานคู่กับ Lugana Molin DOC, Lombardia และ confit toothfish with zolfino beans, blue mussels, and parsley – ปลาหิมะตุ๋นน้ำมัน เสิร์ฟคู่กับถั่วซัลฟินี หอยแมลงภู่ โรยด้วยพาสลีย์ ทานคู่กับไวน์อย่าง  Braide Alte Grand Cru IGT, Livion, Friuli อิ่มอร่อยไปกับอาหารจานหลักอย่าง M9 sirloin with charred artichoke and…

Read More

ในกรุงเทพมหานครฯมีร้านอาหารให้คุณเลือกมากมาย ทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง อิตาลี ญี่ปุ่น เยอะแยะเต็มไปหมด แต่วันนี้ที่ผมจะพาคุณไปสัมพัส เรียกได้ว่าเป็นอาหารฟิวชั่นที่แท้จริงเลยก็ว่าได้ เป็นการผสมผสานเทคนิคการปรุงหลายๆชาติ รวมถึงการใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากโครงการหลวง แต่รสชาติออกมาแบบไทยๆ โดยอาหารทั้งหมดถูกคิดอย่างสร้างสรรค์โดยเชฟฝีมือดี อย่างเชฟฉลอง จากโรงแรมดุสิตธานี D2 เชียงใหม่ เนื่องจากเชฟฉลองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้และใกล้ชิดกับวัตถุดิบโครงการหลวง ซึ่งเมนูต่างๆเป็นการนำเอาบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาตั้งเป็นชื่อของอาหารในแต่ละจาน และได้คัดสรรวัตถุดิบจากโครงการหลวง เพื่อนำมาใช้ปรุงแต่งอาหารในแต่ละจานให้เราได้ลิ้มลอง หน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ตามผมมาเลยครับ ซึ่งวันนี้ผมจะนำทุกท่านไปชั้นที่ 22 ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ณ ห้องอาหาร 22 Kitchen and Bar เริ่มด้วยบรรยากาศในห้องอาหารก่อนเลยนะครับ พอเราได้ก้าวขาเข้ามา  เราจะสัมผัสได้ถึงความเงียบ จะเรียกว่าโรแมนติกก็ว่าได้ คุณสามารถมองเห็นวิวของย่านสีลม และสวนลุมพินี ได้อย่างชัดเจน (ขอบอกว่าสวยมาก แต่ข้างล่างรถติดไปนิด) การจัดโต๊ะของร้านอยู่ใน Mood and tone สบายตา สีฟ้า และ ขาว ตัดกับแสงจากหลอดไฟที่เป็นสีส้มเหมาะแก่การถ่ายเซลฟี่มากๆ ในวันนี้เมนูที่ผมจะพาทุกท่านไปชิมและชมได้แก่ เมนูอะ ลา คาร์ท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมนู Limited edition ซึ่งจะเป็นเซ็ตเมนูอาหารค่ำ 4 คอร์ส จะมีเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมในปีนี้เท่านั้น ซึ่งเมนูนี้จะสิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2560 โดยเมนูอะ ลา คาร์ทได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเมนูแรกนั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 29 ทำให้เมนู นี้มีชื่อว่า “ไร้จันทร์” (No Moon) Steamed red claw crayfish in squid ink wonton, butternut squash sauce and black caviar คือเกี๊ยวกุ้งก้ามแดงเสิร์ฟกับ ซอสน้ำเต้าและไข่ปลาคาเวียร์ โดยไข่ปลาคาเวียร์เป็นคาเวียร์ของปลาสเตอเจียน และฟักบัตเตอร์นัท เป็นวัตถุดิบที่มาจากโครงการหลวง …

Read More

หากคุณเดินผ่านห้างสรรพสินค้า คุณก็อาจล่อลวงโดยกลิ่นของอบเชยอบเชยหรือกาแฟที่นำพาตัวคุณเดินเข้าร้านไปโดยไม่รู้ตัว หรือเมื่อได้กลิ่นครีมกันแดดแล้วก็อยากใส่บิกินี่ตัวน้อยโชว์เนื้อหนังริมน้ำ ไม่ก็ภาพอาหารญี่ปุ่นลอยมาเมื่อได้กลิ่นโชยุ สิ่งเหล่านี้ล้วนเปนอิทธิพลของกลิ่นทั้งสิ้น อันที่จริงกลิ่นนั้นมีอิทธิพลมากกว่าที่หลายคนคาดคิด คุณอาจตระหนักถึงไม่ถึง ในเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่กล่าวไปนี้จะใช้กลิ่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย พวกเขาจะมีอิทธิพลต่อคุณในการซื้อสินค้าที่คุณอาจไม่ได้ต้องการจริงๆ แล้วจะดีแค่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณสามารถใช้แนวความคิดเดียวกันนี้และใช้เพื่อสร้างการรับประทานอาหารที่คิดออกซึ่งนำไปสู่วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี? คุณสามารถใช้กลิ่นธรรมชาติจากรากเมล็ดเปลือกเปลือกใบหรือดอกไม้ของพืชเพื่อส่งเสริมนิสัยการกินที่มีสุขภาพดีได้อย่างไร กลิ่นเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการกินได้ดีกว่ากลิ่นที่ทำให้เบื่ออาหาร เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเราจะใช้ ” กลิ่น ” ในชีวิตประจำวันไม่ว่าตั้งแต่ตอนตื่นนอน อาบน้ำกินข้าว ทำงาน ผ่อนคลาย ไปจนถึงตอนนอนกันได้อย่างไรบ้าง เริ่มต้นวันใหม่อย่างแสนสดชื่น ลองผสมน้ำอุ่นกับ เจลอาบน้ำ ขนาด 4 ออนซ์ และ น้ำหอมระเหยจากพืชตระกูลซีตรัส เช่นพวก ส้มโอ มะนาวหรือน้ำมันมะนาว  ครึ่งช้อนชา คุณจะได้รับการบำรุงผิวพรรณที่ดีโดยรวมและการตื่นตัวในตอนเช้าและการรักษาอาการเพลียจากการพักผ่อนไม่พอ พร้อมกับการอาบน้ำที่ทำให้สดชื่น อาหารเช้าเพื่อสุขภาพเองก็เป็นสิ่งสำคัญ อาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนด้วย สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ ย่อมดีกว่าซีเรียลหวานๆหรือมัฟฟิน และกาแฟถ้วยเดียว ที่ทำให้พลังงานแต่สารอหารไม่ครบ โปรตีนไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อเพียงอย่างเดียว เพราะทั้งไข่ นม โยเกิร์ต และเต้าหู้เองก็เป็นโปรตีน ตอนกลางของวันหรรษา ลองฉีดพ่นละอองไอน้ำมันด้วยตัวคุณเองหรือใช้โลชั่นอโรมาเธอราพีในมือของคุณแล้วสูดดม หากคุณมีวันเครียดคุณสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยที่ผ่อนคลายเช่นลาเวนเดอร์เพื่อให้คุณสงบหรือถ้าคุณกำลังต่อสู้กับความเมื่อยล้าเลือกกลิ่นเช่นยูคาลิปตัสหรือสะระแหน่เพื่อกระตุ้นพลังงาน เมื่อคุณรู้สึกตกต่ำในช่วงบ่ายจงถามตัวเองว่ามีกี่ชั่วโมงนับตั้งแต่คุณกินครั้งสุดท้าย อาจถึงเวลาแล้วที่จะกินอาหารอีกครั้ง ละเว้นเครื่องจำหน่ายที่มีเครื่องดื่มขนมหวานและน้ำตาลและรับขนมขบเคี้ยวในช่วงบ่ายที่ประกอบด้วยรายการโปรตีนและผลไม้ / ผักเพื่อพลังงาน กลับบ้านผ่อนคลาย กลิ้งตัว การดูทีวีตอนค่ำ ฟังเพลง “นวดเท้าของคุณด้วยน้ำมันนวดที่มีกลิ่นหอม” นั้นหละคือสุดยอดแห่งการผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน  เราขอแนะนำ กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยเช่นมะกรูดหรือลาเวนเดอร์ และการนวดเท้าที่แท้จริงช่วยสร้างการผ่อนคลายที่มีประสิทธิภาพและคลายความเตึงเครียด ความเมื่อยล้า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวและสุขภาพโดยรวมของคุณ คุณยังสามารถฟังเพลงผ่อนคลายได้อีกด้วย มันจะกลายเป็นประสบการณ์การผ่อนคลายชั้นเลิศ” รู้สึกเหนื่อยและดูโทรทัศน์อาจไม่ใช่วิธีการผ่อนคลายที่แท้จริงโดยทีเดียว เพราะแสงจากจอทีวีเอง หรือแม้แต่แทปเล็ทและโทรศัพท์เองมีส่วนในการกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวและไม่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว ลองเปลี่ยนมาอยู่ในที่แสงสว่างน้อยลง ฟังเพลง นวดให้ตัวเอง หรือผลัดกันนวดกับเพื่อนคุณ พร้อมเพลงเบาๆ นั้นอาจทำให้คุณผ่อนคลายยิ่งขึ้น ก่อนนอน: “สร้างการผ่อนคลายก่อนนอนด้วยการหยิบน้ำมันหอมลาเวนเดอร์สักสองสามหยดลงบนหมอนหรือใช้หมอนหมอน” ลาเวนเดอร์เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นยาระงับประสาท คลายความเครียด และสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ ปล่อยให้ความคิดที่วนเวียนออกจากวันอันแสนหนักหน่วงของคุณเพื่อให้คุณสามารถหลับได้อย่างสบายๆ ลาเวนเดอร์ยังเป็นกลิ่นที่เหมาะสมอย่างมากในการอาบน้ำช่วงก่อนนอน ด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นผ่อนคลายเช่น ลาเวนเดอร์ ไม้ซีดาร์ หรือดอกคาโมไมล์ เพื่อชื่อไม่กี่ที่กล่าวมาก็ดีเลิศแล้ว นอกจากนี้เราขอแนะนำให้เพิ่มเกลือ Epsom ในส่วนผสมเพราะเป็นประโยชน์สำหรับการลดอาการปวดเมื่อยและปวดและบรรเทาความเครียด คนบางส่วนยังมีนิสัยกินอาหารว่างในห้องนอนมากเกินไป กินนอนบนเตียงเพื่อดูทีวีขณะเคี้ยว หรือตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนเพื่อกินอาหารว่างซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลเสียล้วนๆ เพื่อสุขภาพที่ดี นิสัยเหล่านี้ต้องถูกแทนที่ด้วยการไม่กินอะไรบนเตียงและช่วงก่อนนอน ลองเปลี่ยนเป็นการสูดดมน้ำมันหอมระเหย หรือชาไม่มีค่เฟอีนจำพวกคาโมมาย ซึ่งเป็นตัวทดแทนการผ่อนคลายที่มีประสิทธิภาพ…

Read More

เทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ร่วมสืบสานเทศกาลด้วยขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยสูตรต้นตำรับ 4 รสชาติยอดนิยมที่ทางโรงแรมนั้น ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี ได้แก่ ไส้เกาลัด แมคคาดาเมีย ไส้ทุเรียนหมอนทองไข่คู่ ไส้เต้าซาดำไข่คู่ และไส้โหงวยิ้งไข่คู่ บรรจุในกล่องหรูหราสวยงามซึ่งมีมาให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ สีฟ้าเทอควอยส์ และ สีแดงอิมพีเรียล ตัวกล่องมี 2 ชั้น สวยงาม และยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อ ไว้ใส่เครื่องประดับของคุณผู้หญิง หรือของกระจุกกระจิกได้ ไส้เกาลัด แมคคาดาเมีย / Chestnut and Macadamia ได้รสความหวานของเกาลัด เพิ่มความมันด้วยแมคคาดาเมีย รสชาติแปลกใหม่ที่ควรลอง ไส้ทุเรียนหมอนทองไข่คู่ / Durian (Monthong) with Double Yolk รสชาติดีตามมาตราฐานของไส้นี้ครับ แป้งบาง เนื้อเนียนและไม่หวานมาก ไส้เต้าซาดำไข่คู่ / Red Bean and Lotus Seed with Double Yolk ความหวานจากถั่วแดงเข้าคู่ไปกับความมันและนุ่มจากเม็ดบัว ผสานกับความเค็มจากไข่แดง  ไส้โหงวยิ้งไข่คู่ / Mixed Fruits and Nuts with Double Yolk รสสำหรับผู้ชอบในความคลาสิก ซึ่งมักจะถูกใจผู้มีบุคลิกอันเคร่งขรึม และมีความเป็นผู้ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งรสยอดนิยมของบรรดา อากง อาม่า อาแปะ อาซิ่ม อาๆทั้งหลาย ดิฉันคิดว่าเป็นหนึ่งในรสที่ใครหลายคนต้องหลงไหล หากมีความคลาสิคในตัว ชุดขนมไหว้พระจันทร์จาก โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมอบเป็นของขวัญ ในราคากล่องละ 1,688 บาทสุทธิ สามารถสั่งจองออนไลน์ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ http://bit.ly/29AziN6 หรือโทร 02 207 7777 mooncake, mooncake2017, review, รีวิว, ขนมไหว้พระจันทร์,…

Read More

รีวิว ขนมไหว้พระจันทร์ 4 รสชาติ ก้อนโต จาก The Okura Prestige Bangkok ปีนี้ทางโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ได้จัดเซ็ทขนมไหว้พระจันทร์ สำหรับคนที่ชอบทานขนมไหว้พระจันทร์หรือสำหรับซื้อฝากญาติพี่น้อง ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ปี 2017 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีทั้งหมด 4 ไส้ ได้แก่ ทุเรียนไข่เดียว, พุทราไข่เดียว, คัสตาร์ด และ ชาเขียว แนะนำขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย บรรจุในกล่องดีไซน์พิเศษสำหรับมอบเป็นของขวัญของฝากแก่คนพิเศษ ลูกค้า กลุ่มเพื่อน หรือเพื่อความอร่อยสำหรับตัวท่านเองในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ จำหน่ายที่ร้านขนม ลา พาทิสเซอร์รี (La Pâtisserie) ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ถึง 4 ตุลาคม 2560 ขนมไหว้พระจันทร์โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม แป้งบางนุ่ม ไส้เนียน เนื้อแน่น รสชาติเข้มข้น บรรจุในกล่องดีไซน์พิเศษ โดยตัวกล่องเป็นลายกราฟิคสีฟ้า ส่วนฝากล่องสีแดงประทับลายใบแปะก๊วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ บรรจุขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น 4 รสชาติ ราคากล่องละ 988 บาท มีไส้ชาเขียว ไส้คัสตาร์ด ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว และไส้พุทราไข่เดี่ยว ส่วนกล่องบรรจุ 8 ชิ้นราคา 1,888 บาท และ 12 ชิ้นราคา 2,888 บาท พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อ ตั้งแต่ 51-100 กล่อง รับส่วนลด 15% และเมื่อซื้อตั้งแต่ 101 กล่องเป็นต้นไปรับส่วนลด 20 % บริการส่งฟรีเมื่อมียอดการสั่งซื้อตั้งแต่…

Read More

การนอนตื่นสายในวันหยุด หรือ นอนยาวๆในช่วงเวลาที่ว่างจะช่วยทดแทนการนอนที่หายไปนั้น การนอนตื่นสายกระทั่งบ่ายในวันเสาร์จะชดเชยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่สะสมมา 5 วันได้   คงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ แม้จะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนทำอยู่และมองว่ามันช่วยให้สดชื่นก็ตาม   แต่นักวิจัยบอกว่าคิดผิดแล้วแม้การนอนตื่นสายโด่งในวันเสาร์อาจช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น แต่การทำกิจกรรมต่างๆ ยังเชื่องช้าและเงอะงะอยู่ดี  เพราะประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ของคนเราจะเสื่อมถอยลงถ้าได้นอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง และไม่สามารถฟื้นคืนได้แม้นอนชดเชยในอีกสองคืนต่อมาก็ตาม งานวิจัยมากมายได้มีการบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ” นอนชดเชยเยอะๆ  ไม่ได้ช่วย และยังส่งผลเสีย ! ” คณะนักวิจัยสหรัฐ นำโดย ดร.แดเนียล โคเฮน จากโรงพยาบาลบริกแกม กล่าวว่า การนอนไม่พอหลายคืนจะทำให้ประสิทธิภาพร่างกายแย่ลงในช่วงที่ตื่นอยู่ โดยเฉลี่ยคนเราควรนอนคืนละ 8 ชั่วโมง หากไม่ได้นอนหลังจากตื่นมาแล้ว 24 ชั่วโมง ถือว่านอนไม่พอฉับพลัน แต่หากนอนเพียงคืนละ 4-7 ชั่วโมง ติดต่อกันหลายคืนถือว่านอนไม่พอเรื้อรัง ข้อสรุปนี้ได้จากการทดลอง ให้อาสาสมัครสุขภาพแข็งแรง 9 คนอยู่ในโรงพยาบาล 38 วัน กำหนดให้มีวงจรนอนหลับผิดไปจากปกติ ทั้งอดนอนฉับพลัน อดนอนเรื้อรัง และเปลี่ยนช่วงเวลานอน จากนั้นทดสอบความตื่นตัวและความระมัดระวังทุก ๆ 4 ชั่วโมงพบว่า อาสาสมัครที่อดนอนเรื้อรัง ประสิทธิภาพของร่างกายแย่ลงในแต่ละชั่วโมงที่ตื่นอยู่ และเมื่อให้นอนตามปกติ 3 วันก็ไม่สามารถชดเชยผลที่เกิดจากการอดนอนเรื้อรัง และผลการศึกษายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ต้องนอนชดเชยกี่วันหรือกี่สัปดาห์จึงจะเพียงพอ “คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่านอนไม่พอเรื้อรัง หลายคนคิดว่าการได้นอนชดเชยหนึ่งคืนก็พอ เพราะรู้สึกดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก็นอนไม่พอต่อไป ซึ่งจะทำให้หลับใน ขาดความระมัดระวัง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ” นักวิจัยเตือน นอกจากนี้ อเล็กซานดรอส วีกอนต์แซส ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับและศาสตราจารย์จิตวิทยา มหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ ได้ทำการวิจัยและเก็บตัวอย่างศึกษาจากหนุ่มสาวที่ต้องใช้เวลา 13 คืนในห้องปฏิบัติการ สี่คืนแรก อาสาสมัครจะได้นอนเต็มที่ 8 ชั่วโมง หลังจากนั้นอีก 6 คืนได้นอนแค่ 6 ชั่วโมง ส่วน 3 คืนสุดท้ายได้นอนยาวเหยียด 10 ชั่วโมง สิ่งที่พบคือ หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่นอนไม่เต็มที่ การได้นอนชดเชยในสองคืนต่อมาช่วยได้แค่ทำให้ไม่รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเท่านั้น แต่ไม่มีผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่อย่างใด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การนอนชดเชยในวันเสาร์-อาทิตย์หลังจากนอนไม่พอมาตลอดสัปดาห์ ไม่สามารถเยียวยาผลลบจากการพักผ่อนไม่เพียงพอที่เกิดกับสติปัญญาความคิดได้…

Read More

สวัสดีครับ ในครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับ อาหารไทยจากแนวคิดความยั่งยืน สู่ จาน ที่มาพร้อมการจับคู่กับเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทย และทั่วโลกที่มีต้นกำเนิดจากเยอรมัน ซึ่งหลักๆแล้วมื้ออาหารนี้เกิดจาก แคมเปญ ช้าง เซนซอรี่ เทรลส์ (Chang Sensory Trails) โดย แบรนด์ช้าง สร้างสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟพร้อมลิ้มรสเมนูอาหารไทยในสไตล์ Fine Dining ที่ได้รับการรังสรรค์เป็นพิเศษจากความทรงจำของ เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ และเชฟดีแลน โจนส์ คู่สามีภรรยาเจ้าของร้านโบ.ลาน ซึ่งรับตำแหน่งเป็น  Thai Culinary Ambassador ของแคมเปญช้าง เซนซอรี่ เทรลส์ ในปีนี้ โดยเฉพาะ ร้าน โบ.ลาน ได้รับยกย่องให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับที่ 19 จาก 50 ร้านในเอเชียในปี 2017 จัดอันดับโดย Asia’s 50 Best Restaurants 2017 นอกจากนี้ เชฟโบ ซึ่งรั้งตำแหน่งเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2013 ได้ร่วมถ่ายทอดรสชาติอาหารไทยต้นตำรับที่คาดไม่ถึง ให้แก่ชาวต่างชาติ ซึ่งเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากทั้งลอนดอน และซาน ฟรานซิสโก สามารถการันตีฝีมือของเชฟได้อย่างดี หากพวกคุณกำลังหาของกิน Style อาหารไทยรสเด็ดและอร่อยกับหวานใจหลังเลิกงานในย่านทองหล่อ ผมไม่อยากให้คุณพลาดร้านนี้ ซึ่งแค่ชื่อร้านก็ Romantic แล้ว นั่นก็คือ “โบ.ลาน” แต่ช้าก่อน มันไม่ได้หมายความว่า “โบราณ” นะ แต่มาจาก “โบ” รวมกับ “ลาน” นั่นคือเชฟฝีมือเยี่ยมคู่รักสามีภรรยา นามว่า “เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ” และ “เชฟดีแลนด์ โจนส์” Appetizer ข้าว organic ผสมเกลือมะพร้าว ที่ได้สัมผัสถึงรสชาติของมะพร้าว เพียงแค่คำแรกที่กินเข้าไป ซึ่ง set นี้ จะมาด้วย Design ของขนมไทย Main Courses…

Read More