Author: sorawich

วันนี้ทาง kinlakestars.com ได้มีโอกาสมาชิม อาหารฝรั่งเศส ที่ห้องอาหาร the Reflexions ของ The Athenee Hotel, A luxury collection ถนนวิทยุ โดยในวันที่ 20-25 มีนาคมนี้ เชฟ Ludovic Turac เชฟมิชชิลิน 1 ดาวจาก Marseille จะมารังสรรค์เมนูพิเศษ ให้เราได้ชิมกันถึงที่เลยครับ ตั้งแต่วันที่ 20 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2561 นี้ เดอะ รีเฟล็กซ์ชั่นส์ ห้องอาหารฝรั่งเศสสไตล์โมเดิร์น โรงแรม ดิ แอทธินี  โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล การันตีด้วยรางวัลล่าสุด “ห้องอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน (The Plate)” โดย หนังสือคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ขอเชิญคนรักอาหารฝรั่งเศสทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารจากครัวฝรั่งเศสทางตอนใต้ที่ภูมิใจสร้างสรรค์โดย เชฟลูโดวิค ตูรัค (Ludovic Turac) เชฟหนุ่มสัญชาติฝรั่งเศสไฟแรงระดับหนึ่งดาวมิชลิน สำหรับเมนูที่เราได้ชิมในวันนี้จะเป็น 3 course menu กับ wine pairing ที่ประกอบด้วย appetizer จานหลัก และ ขนมหวาน โดยก่อนจะเริ่มมื้อ ด้วยขนมปังของทางร้าน ที่เสิร์ฟอุ่นๆ หอมแป้ง กับเนยฝรั่งเศสอย่างดี ตัวขนมปังแป้งไรซ์เบอรี่หอม มีความกรอบของเมล็ดทานตะวัน ด้านนอกกรอบด้านในนุ่มเหนียว รสสัมผัสดีมาก อีกตัวจะเป็นขนมปังซอร์โด ที่แป้งจะมีความอมเปรี้ยวเล็กน้อยจากการหมัก หอมเหนียว อร่อยมากๆ เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี ต่อมาเป็น เมนู amuse bouche ที่จะเป็น หอยนางรมฝรั่งเศส กับแป้งขนมปังอบเนยกระเทียม ตัวหอยมีความเค็ม ตัดกับหวานธรรมชาติของตัวหอย มีกลิ่นหอมของเนยกระเทียม อร่อยมากเลยครับ…

Read More

เมื่อเข้าถึงช่วงฤดูกาลแห่งความรัก หลายๆคู่รัก ก็เริ่มมองหากิจกรรม และสถานที่ที่จะเฉลิมฉลองช่วงเวลาสุดโรแมนติกด้วยกัน วันนี้ทาง kinlakestars.com จะขอแนะนำโปรโมชั่น 5 course dinner (1999++ for 2) ที่นอกจากจะมี เมนู 5 courses ในบรรยากาศแบบ fun dining ที่ไม่ทางการมากเกินไป และยังรวม sparkling wine ให้ 2 แก้ว ใน Valentine คอรฺสนี้ อาหารจะมาใร แนวคิดของการ sharing ที่อาหาร จะมาในจานใหญ่เพื่อให้ทั้งสองคน สามารถแบ่งปันอาหาร และความสุขกัน ในระหว่างมื้อ ห้องอาหารแห่งนี้เดิมเป็นห้องอาหารสเปนซึ่งปัจจุบันปรับปรุงใหม่เป็นห้องอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียน ที่ตกแต่งด้วยโทนสีแดงอยู่แล้ว จริงเข้ากันเหมาะสมแก่การมาสวีทหวานกันในวาเลนไทน์เป็นอย่างดี ให้ความรู้สิกโรแมนติกร้อนแรงดีทีเดียว โดยเริ่มต้นคอร์าจะเป็น Tapas Sharing Platter จะเริ่มด้วย cold cuts และ cheese ที่จะมีทั้ง แฮมทั้งจาก สเปน และ อิตาลี ตัวไอเบอริโก้แฮม นั้นไม่เค็มเกินไป มีความมันและฉ่ำ ทานกับชีส ต่างๆ และผลไม้แห้ง ส่วนตัวผมชอบ blue cheese ที่ให้กลิ่น backward smelling ที่หอม อร่อย เรียกน้ำย่อยได้ดีมากครับ จานที่สองจะเป็น cod croquettes และ avocado & goat cheese ในส่วนของ คร้อกเก้นั้น ภายในจะมีไส้ปลา การทอดทำได้ดี กรอบ ไม่อมน้ำมัน แต่อยากให้มีเนื้อปลามากกว่านี้หน่อย ในส่วนของ avocado & goat cheese จะทามาบนขนมปัง ดูน่าทาน รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นของชีสแพะ ผสานกัน เซเลรี่ ให้รสนวลๆมันๆของ อโวคาโด้ รสชาติแตกต่างจากอาหารที่เคยทานทั่วไปดีครับ…

Read More

“ล้ง 1919”  คือ ท่าเรือกลไฟ กับ โกดังเก่า ของตระกูล หวั่งหลี ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากท่าเรือคลองสาน มีประวัติมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งในตอนนี้ได้มีการนำมาปรับปรุง ตกแต่งใหม่ โดยยังคงสถาปัตยกรรมเดิมไว้ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในย่านโบราณ ร้านโรงสี (Rong Si’) เป็นร้านอาหารไทย ตั้งอยู่ในโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่น้ำมาตกแต่งใหม่ ให้มีบรรยากาศโปร่ง สบายๆ กว้างขวาง เหมาะกับการสังสรรค์ ทั้งกับเพื่อน หรือ ทานข้าวกับครอบครัวก็ได้ สำหรับเมนู ที่ทาง kinlakestars.com ได้รีวิววันนี้ จะเป็นอาหารแนะนำของทางร้าน ห่อหมกขนมครกเนื้อปู (295 บ) ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ (800 บ) ปลากระพงทอดขมิ้น (650 บ) น้ำพริกไข่ปู (280) เมี่ยงดอกบัว (280)  และยำส้มโอ (280) ซึ่งราคาก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับวัตถุดิบ และที่ตั้งของร้านเอง เริ่มจาก ห่อหมกขนมครกเนื้อปู จะเสิร์ฟบนถาดขนมครกร้อนๆ สิ่งแรกที่จะสะดุดสัมผัสทั้ง 5 ของผู้กิน ถ้าไม่นับรวมรูปลักษณ์ และภาชนะ นั่นก็คือ กลิ่นหอมๆนั่นเอง กลิ่นหอมๆที่ลอยนำมาก่อนจะลิ้มชิมรส ในแต่ละชิ้น ให้ปูชิ้นใหญ่ รสชาติเข้มข้น ออกไปทางรสจัด หอมเครื่องแกง เหมาะกับทานกับข้าวสวยร้อน รสเผ็ดร้อนจะทิ้งยาวทิ้งท้าย สำหรับคนกินเผ็ดอยู่แล้วไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าใครไม่กินเผ็ดอาจต้องเตรียมข้าว เตรียมน้ำกันเสียหน่อย ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ เป็นกุ้งแม่น้ำขนาดกลาง (ประมาณ 2-3 ขีด) มีมันกุ้ง ย่างกำลังดี ตัวซอสฉู่ฉี่ มีความหอมกะทิ เครื่องแกง รสชาติค่อนไปทางเค็มนิดหน่อย นำซอสมาคลุกกับมันกุ้ง ราดข้าว อร่อยมากครับ ปลากระพงทอดขมิ้น เป็นปลาทั้งตัว นำมาหั่นชิ้นทอดกรอบ ทานกับ น้ำจิ้มซีฟู้ด 2 แบบ (พริกเขียว กับ พริกแดง) ทอดได้กรอบ ไม่อมน้ำมัน เข้ากับน้ำจิ้มซีฟู้ด ทำได้ดีผ่านมาตรฐานครับ ถัดมาเป็น…

Read More

สำหรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ อาหารบุฟเฟ่ต์ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่เหมาะแก่การพาคนที่เรารัก ,ครอบครัว, เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมงาน ไปรับประทานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รักเมนูซีฟู้ด ห้องอาหารเดอะสแควร์   โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพสยามสแควร์  ส่วนที่เป็นซีฟู้ดออนไอซ์ มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งปูอลาสก้า,  หอยนางรมสด, หอยแมลงภู่, ปู, กุ้งลายเสือ หอยนางรมนำเข้าแกะกันสดๆใหม่ๆ ไม่อั้น ปูอลาสก้าหวานฉ่ำไม่อั้นเช่นกัน ปูม้าก็มากันทั้งตัวเลือกกินกันไม่อั้น หอยแมลงภู่นิวซีแลน์ตัวโต เนื้อเด้ง ในส่วนของน้ำจิ้ม มีให้เลือกหลากหลายทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำพริกเผา หรือแม้กระทั่งน้ำจิ้มแจ่ว เลือกได้ตามใจชอบ มีส่วนที่เป็นปิ้งย่างมีทั้งกั้ง, ปู, กุ้ง, หอยแครง, หอยหวาน, เนื้อวัวสันนอก  เนื้อแกะ และแซลม่อน ปิ้งย่างกันได้ไม่อั้น เอาจานมาคีบเลือก และส่งให้เชฟพร้อมบอกได้ว่าอยากได้ความสุกประมาณไหน หากต้องการทานล็อบสเตอร์ ครึ่งตัว ก็จ่ายเพิ่ม 199 บาท  ซึ่งมาทั้งตัวและก้าม ถือว่าคุ้มมากทีเดียว เพราะ เนื้อหวานอร่อยใช้ได้ทีเดียว นอกจากนี้ยังปรุงแบบเตอร์มิดอร์ได้รสถูกปากคนไทยเป็นอย่างยิ่งในส่วนของอาหารไทย จะมีหลากหลายเมนู ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะยำ หรือ น้ำพริกผักสด ไก่ทอดหมูย่างก็มากันจัดเต็ม มีส่วนที่เป็นอาหารญี่ปุ่น มีเชฟคอยทำให้ทาน สดๆทุกคำ ทั้งซูชิและซาชิมิเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ คือแซลม่อนอบเกลือ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Live station อาทิ พาสต้าสเตชั่น ซึ่งสามารถให้เชฟปรุงได้ตามที่ต้องการทั้ง เลือกเส้นในแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นเพเน่ เฟตูชินี่ หรือสปาเกตตี้ และซอสสารพัดซอสทั้งไวด์ครีมซอส ซอสมะเขือ สเตชั่นอาหารไทย มีให้เลือกหลากหลาย เมนูอาหารจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน สเตชั่นของอบ ปลา หอยนางรมซาบายอน ซึ่งอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอนทั้งความมันเค็มมันจากชีสด้านหน้าไปกันได้ดีกับเทคเจอร์นิ่มๆและรสหวานจากหอยนางรม เมนูปลาวันนี้จะเป็นปลาอบกระเทียมพริกไท รสชาติของกระเทียมพริกไทซึมเข้าในเนื้อปลา พร้อมทั้งกลิ่นหอมชวนรับประทาน สเตชั่นอาหารญี่ปุ่น ในส่วนของมุมอาหารญี่ปุ่นก็จะมีข้าวปั้นแบบมากิและนิริกิ โดยไอเทมใหม่ๆที่เพิ่งจะเพิ่มเข้ามากันก็คือ แซลมอนนิริกิอาบุริ หรือข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอนสดและมีการใช้ไฟเบิร์นผิวท๊อบหน้านั้นเอง ในส่วนของของหวานจะมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนมไทย, เค้ก มีฟองดูให้เลือกทั้งช็อคโกแลต, วนิลา และสตรอเบอรี่นอกจากนี้ยังมีเครป เลือกท้อปปิ้งได้ ทานคู่กับไอศกรีมปิดท้ายด้วยผลไม้ มีให้เลือกหลายอย่าง บุฟเฟต์ซีฟู้ดเปิดให้บริการ ในมื้อค่ำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2017…

Read More

Kika ร้านอาหารสไตล์บาร์แห่งใหม่ ใจกลางสีลม ภายในมีบรรยากาศแบบแคชชวลบาร์ ในประเทศสเปน ให้ความครึกครื้น สบายๆ เหมาะกับการมาผ่อนคลายหลังจากการทำงาน เพื่อมาดื่มเครื่องดื่มสุดคูล ฟังดนตรีเบาๆ กับทานอาหารในลักษณะ tapas ที่นอกจากจะอร่อย เก๋ แล้วยังเข้ากับเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี ทาง Kinlakestars.com ได้มีโอกาสมาร่วมงานเปิดร้าน Kika และถือโอกาสรีวิว ร้านใหม่ใจกลางสีลมนี้เลยครับ สำหรับอาหารของทางร้าน Kika ส่วนใหญ่เป็นเป็น เมนู Tapas ที่จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก ทำให้สามารถที่จะลองชิม ได้หลายๆเมนู และทานเข้ากับเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดีครับ ขอเริ่มจาก เครื่องดื่ม cocktails ที่เป็น signature ของที่ร้าน Pineapple & Sandalwood White Negroni (270++) เป็นใช้ Gin & White & Dry Carpano ผสม กับ infused pineapple & sandalwood สำหรับแก้วนี้ มีความหอม นุ่ม สดชื่น ของสับปะรดที่ ผสมกับเปลือก sandalwood ให้ความหอมแบบนุ่มๆ กับรสชาติแบบเบาๆ หวานละมุน ทำให้ดื่มเพลินมาก สามารถดื่มได้เรื่อยๆ ผ่อนคลายได้ดีมากครับ ในส่วนของอาหาร จานแรกที่ได้ลองจะเป็น cold cut ที่ผมสามารถบอกได้ว่าเป็นหนึ่งใน cold cut ที่อร่อยมากที่สุดเท่าที่เคยทานมาเลย ตัวเนื้อ chorizo/ iberico ham มีความหอม มัน นุ่ม ฉ่ำ ไม่แห้ง ความเค็มกำลังดี ไม่เค็มจนเกินไป จากส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทาน cold cut แต่ยังรู้สึกชอบมากจนทานหมดไม่รู้ตัวเลยครับ จานถัดมา จะเป็นเกี๊ยวไส้หนวดปลาหมึก ที่มีซอส 2 แบบคือ ซัลซ่ามะเขือเทศ และ หมึกปลาหมึก ตัวการทอดทำได้ดี…

Read More

ร้านอาหารอิษยา เป็นร้านอาหารไทยประยุกต์โดยมีเชฟเอียน หนึ่งในเชฟกระทะเหล็ก ซึ่งเป็นเชฟฝีมือดีในวงการ บรรยากาศร้านภายนอกจะดูมีความร่มรื่น มองแล้วสบายตาด้วยสีเขียวจากต้นไม้ ส่วนตัวร้านจะเป็นบ้านเก่าแก่สมัย ร.5 เอามาตกแต่งใหม่ อยู่ท่ามกลางสวน เมื่อมาถึงทางร้านมีการเสิร์ฟ welcome drink ด้วยน้ำส้มซ่า จะมีรสชาติเปรี้ยวๆ ปนขมนิดๆจากส้มซ่า ซึ่งจุดเด่นของส้มซ่านั้นไม่ได้อยู่ที่รสชาติ แต่เป็นกลิ่น กลิ่นของส้มซ่านั้นหอมสดชื่น อาหารจานแรก แสร้งว่าปู ปูผัดกับมะม่วงน้ำดอกไม้ และน้ำพริกเผา โรยด้วยไข่ปลาคาเวียร์ รสชาติไม่เผ็ดมาก มีการจัดจานได้อย่างสวยงาม ความหวานจากมะม่วงสุกผสานกับเนื้อปูออกมาได้รสที่ลงตัวกำลังดีไม่คาวเลย กับความหอมจากน้ำพริกที่ให้ความหอมและรสที่กลมกล่อมขึ้นแต่ไม่เผ็ด โรยหน้าด้วยคาเวียร์รสมันเค็มพร้อมความสวย พระรามลงสรง เป็นหอยเชลล์ฮอกไกโด(Hokkaido scallop) หอยมีความนุ่ม ไม่เหนียวจนเกินไป ราดด้วยน้ำแกงมีกลิ่งผงกะหรี่อ่อนๆ แสร้งว่ายอดมะพร้าว เป็นเมนูคล้ายกับแสร้งว่าปู แต่เปลี่ยนเป็นใส่ยอดมะพร้าวแทนปู เป็นทางเลือกสำหรับคนทานเจ รสชาติจะมีความเปรี้ยวนิดๆจากส่วนผสมของส้มโอ กุ้งมังกรกระเพราควาย หลายคนคงสงสัยว่ากระเพราะควายคืออะไร จริงๆแล้วก็คือใบยี่หร่านั่นเอง  มาทำเป็นผัดกระเพราทำให้กลิ่นกระเพราไม่แรงจนเกินไป เพิ่มความน่าทาน กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งล็อบสเตอร์ มีความหวานและความหนึบของเนื้อกุ้ง รสชาติไม่เผ็ดมาก กำลังพอดี ผัดยอดมะพร้าวกระเพราควาย เมนูนี้สำหรับคนทานเจ โดยใช้ยอดมะพร้าวมาทำเป็นผัดกระเพรากับใบยี่หร่า ยอดมะพร้าวมีความหวานกรอบ ปลาตำลึงราดพริก ปลาค้อดโรยหน้าด้วยตำลึงบดละเอียด ทานกับซอสไอวี่ เนื้อปลาจะนุ่มๆ มีรสชาติขมๆจากตำลึงนิดหน่อย แกงคั่วเนื้อ เป็นแกงกะหรี่เนื้อ ใส่ใบชะมวงมาด้วย มีรสชาติหวานกำลังพอดี เนื้อจะมีความกรอบนอกนุ่มใน โดยเนื้อที่นำมาทำจะผ่านการตุ๋นมาก่อนประมาณ12 ชั่วโมง ลาบคั่ว เป็นลาบไก่ทอด ไก่ที่ใช้เป็นไก่ตอนเลี้ยงแบบออร์แกนิค ที่ฟาร์มจากเขาใหญ่ ไก่จะนำมาทอดแล้วมาคลุกกับผงลาบคั่ว แกงฮังเลหมู ใช้หมูสันในหมักไว้ 1 วัน ราดด้วยหมูตุ๋นที่ทำมาจากส่วนท้องเพื่อเพิ่มรสชาติความหวาน แต่กำลังพอดี ผสมด้วยเครื่องเทศจากทางภาคเหนือ ปิดท้ายด้วยของหวาน มิลเฟยล์ชาไทย ไม่หวานมาก กำลังพอดี มีรสชาติเข้มข้นของชาไทย ขนมปังที่ผสมชาร์โควให้สีดำเพิ่มความน่าสนใจ ครีมชาไทยมันหวานหอมกำลังดี เสาวรส ข้างในเป็นครีม รสชาติเปรี้ยวไม่มาก กินคู่กับไอศกรีม เข้ากันลงตัวเลยทีเดียว ห้องอาหารอิษยา เป็นห้องอาหารไทยที่มีความประยุกต์หลายอย่าง นำอาหารธรรมดามาทำให้ดูคล้ายอาหารทางภาคเหนือ โดยเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากความชอบในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบ อาหารจึงมีรสชาติกำลังพอดี และยังมีเมนูทางเลือกสำหรับคนทานเจอีกด้วย issaya siamese club, review, เชฟเอียน…

Read More

DEAN & DELUCA แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มระดับไอคอนจากนิวยอร์ก ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ด้วยเมนูสุดพิเศษ เนื้ออบรสชาติกลมกล่อม เครื่องเคียงที่หลากหลาย ของหวานรสชาติละมุน และเครื่องดื่มรสชาติดีเลิศ โดยทั้งหมดใช้วัตถุดิบที่สด และคุณภาพดี เฉพาะเทศกาลนี้เท่านั้น เริ่มต้นเสิร์ฟด้วย Chestnut soup with Truffle Crouton เป็นซุปมีส่วนผสมจากเกาลัด เห็ดพอร์โทเบลโล โรยด้วยขนมปังกรอบ มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม Pumpkin, Carrot & Sweet Potato soup มีรสชาติหอมหวาน กำลังพอดี ส่วนประกอบหลักคือฟักทอง อาหารจานหลัก จานแรกคือ Holiday Roast Beef เป็นเนื้อวัว เลือกระดับความสุกได้ เสิร์ฟมาพร้อมกับนำ้เกรวี่ และซอสปอนซึต้นหอม Holiday Asian BBQ Glazed Ham แฮมเนื้อแน่นๆ รสชาติหวาน ทานกับซอสฮอยซิน Holiday Turkey ไก่งวงอบ นุ่มลิ้น ทานกับซอสเกรวี่ ซอสแครนเบอร์รี่และส้ม ตัดเลี่ยนได้ดี อาหารจานหลักนั้นทานกับเครื่องเคียงที่จัดมาให้ ในที่นี้มี4เมนู คือ Mixed Root Vegetable ประกอบไปด้วยมันฝรั่งลูกเล็ก ฟักทองญี่ปุ่น บีทรูท แครอท กระเทียม เครื่องเคียงจานถัดมาคือ Jalapeno Cornbread มีรสหวานและเค็ม Maple Bacon Roast Brussel Sprout มีความกรุบกรอบจากกะหล่ำดาวและรสเค็มจากเบคอน ถ้าใครชอบทานสลัด ก็มี Cucumber Mint Salad ประกอบด้วยแตงกวา ใบมินต์ และโยเกิร์ต หลังจากนั้นก็เป็นเมนูของหวานรสชาติละมุน เริ่มต้นด้วย Pumpkin Pie พายฟักทองรสชาติหอมหวาน ผสมกับซินนามอน Chocolate Pecan Pie พายรสช็อกโกแลตผสมกับถั่วพีแคน Pumpkin & Pecan Cheesecake Pumpkin…

Read More

ตั้งแต่ 5 ตุลาคมถึง 30 ธันวาคมนี้ ที่ห้องอาหาร Scalini ชั้นสอง โรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok (ลงจาก BTS พร้อมพงษ์) ได้จัดโปรโมชันพิเศษสุด Light my Fire ที่นอกจากจะได้พบกับเมนูใหม่ของเชฟ Roberto Pinna ผู้ผ่านประสบการณ์ร้านระดับมิชชิลสตาร์มาแล้ว ยังมีการนำวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงพร้อมเสริฟอย่างใกล้ชิด ถึงข้างโต๊ะเลยครับ เชฟโรแบร์โต อายุ 29 ปี เคยเป็นเชฟประจำห้องอาหารทั้ง 2 ห้อง ของโรงแรม แชงกรีล่า ทันจัง ซาปา ที่มาเลเซีย และยังเคยเป็นเชฟประจำห้องอาหารอิตาเลียนที่ดังระดับโลกอย่าง โรงแรมโรสวู๊ด หาดจัมบี้ ที่แคริเบียน แอนติกา ก่อนที่จะมาเป็นเชฟประจำห้องอาหารสกาลินี เชฟโรแบร์โต ได้นำเอาความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไปในเมนูใหม่ของสกาลินี อย่าง ‘Light my Fire’ โปรโมชั่น ที่นำเอาไฟ ควัน และน้ำแข็งมาเป็นส่วนผสมผสานในการปรุงอาหารอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเป็นการปรุงอาหารแบบใกล้ชิดติดขอบโต๊ะและเสริฟแบบทันที นอกจากนี้เชฟยังได้รังสรรเมนูประจำห้องอาหารสกาลินีขึ้นมาใหม่ อย่างออสตริค อิ แองกูเรีย หอยนางรม ฟินส ดิ แคลร ครีมมอสซาเรลลา ซารดิเนียโบตากาและแตงโม ซึ่งเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำให้เราสดชื่น และ สกาลินีตอรเตลี่ พาสตาตอรเตลี่สอดไสปลามั้งฟิช ซอสไซตรัส ไขปลาดองสไตลซารดิเนียนใบมิ้นทและซอสซัลซาบร็อคโคลี่ ในส่วนของอาหารจานหลักแนะนำเช่น แกมวัวตุ๋น กัวอันเชีย บราซาตา หัวหอมอบ เบบี้แครอทเผ็ด มะเขือมวงและซอสโรสแมรี่ และยังมีเมนูที่คนชื่นชอบของหวานพลาดไม่ได้อย่าง บราวนี่อุนๆ ผสมผสานกับช็อคโกแลตมูสสไตลฝรั่งเศส เสิรฟพรอมไอศกรีมเหลาแซมบูคา เป็นต้น “พวกเราเชื่อว่าความสามารถและประสบการณ์ทางด้านการรังสรรอาหารอิตาเลียนของเชฟโรแบร์โต จะเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของคนรักอาหารอิตาเลียนที่มาเยี่ยมเยียนสกาลินีของเรา” มร เอียน แบร์โรว์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรงฮิลตัน สุขมวิท กรุงเทพฯ กล่าว ในส่วนของเมนูที่ได้มีโอกาสชิมวันนี้ เริ่มจาก Pass around canapes เริ่มจาก…

Read More

หากคุณมองหาอาหารไทย ปรุงอย่างไทย รสไทยแท้ๆ แต่สร้างสรรค์ สวยงาม กินสนุกหลากหลาย รสกลมกล่อม หรือเป็น คอ fine dining ชอบอาหารจานไม่ใหญ่ หลายคอร์ส เราแนะนำให้คุณลอง New Tasting Menu นี้ ! ห้องอาหารศิลาดล โรงแรมสุโขทัย เป็นอาหารไทยจัดเป็น Fine Dining ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี มีความสดใหม่ บวกกับประสบการณ์ของเชฟอันยาวนาน เชฟเป็นผู้ที่หลงใหลในการทำอาหารไทย คอยคิดค้นรวมทั้งหาแรงบันดาลใจอยู่ทุกวัน ทำให้อาหารรสชาติออกมาดีเลิศ กลมกล่อม พอดีในทุกคำ การตบแต่งภายในห้องอาหารจะเป็นสไตล์ไทยๆแต่ดูเรียบหรู โดยอาหารของเราวันนี้ จะมีทั้งหมด 12 คอร์ส ก่อนเริ่มทานจะมีการแสดงของโรงแรมเป็นนางรำชุดไทย มีความอ่อนช้อย สวยงาม เพลิดเพลินกันเลยทีเดียว อาหารจานแรกที่มา จะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อเป็นการรองท้องก่อนทานอาหารจานหลัก  ผลไม้วันนี้จะเป็นเมนู มังคุดน้ำปลาหวาน เนื้อมังคุดที่ฝานเอาเม็ดออก ผสมกับน้ำปลาหวาน จัดมาในผลมังคุด พร้อมเสิร์ฟพอดีคำ รสชาติหวานๆเค็มๆ ลงตัว อาหารจานถัดมาจะเป็นขนมครก แต่ไม่ได้เป็นของหวาน เริ่มมีความเป็นอาหารคาวมากขึ้น เพราะเป็นไส้ปูผัดผงกะหรี่ มีความกรอบของแป้งขนมครกที่ทำจากข้าวไรซ์เบอรี่กับความความเข้ากันดีของรสชาติปูผัดผงกะหรี่ อาหารจานที่3 เริ่มจะเป็นอาหารคาว แหนมข้าวหอมมะลิทอด จัดมาโดยวางบนใบชะพลู รสชาติอร่อยมาก แหนมไม่เปรี้ยวจนเกินไป สัมผัสได้ถึงความใหม่ของข้าวหอมมะลิ มีใบชะพลูจะช่วยตัดความเลี่ยนออกไปด้วย อาหารจานที่4 จะเป็นยำตะลิงปลิงปูยักษ์ ส่วนแรกเป็นยำตะลิงปลิงกับเนื้อปูอลาสก้าฉีกเป็นฝอยๆ รสชาติกลมกล่อมพอดี เมื่อทานหมดแล้ว ขาปูสามารถแกะออก ทานเนื้อปูที่อยู่ภายในได้ โดยเป็นเนื้อปูนึ่ง มีความหวานของเนื้อปู ไม่ต้องทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อยได้ อาหารจานที่ 5 ต้มยำทะเลหัวกะทิ ประกอบไปด้วยกุ้ง ปลาหมึก และหอย อาหารจานนี้มีลูกเล่นอย่างนึง คือที่เราเห็นเป็นฝาหอยแครงนั้นจริงๆเป็นกะทิ ที่ทำมาในรูปหอยแครง เพิ่มความน่าทานมากขึ้น เมื่อเสิร์ฟพร้อมน้ำต้มยำ หอยแครงจะละลายกลายเป็นส่วนของน้ำต้มยำ วัตถุดิบที่ใช้มีคุณภาพดีมีความสดใหม่ ความหวานของเนื้อกุ้ง ปลาหมึกที่ไม่เหนียวและแข็งจนเกินไป และความอร่อยของหอย ก่อนเข้าสู่จานที่ 6 จะมีการแสดงของนางรำอีกรอบหนึ่ง รอบนี้จะเป็นสไตล์ละโว้ เข้ากับสถานที่ของเราทีเดียว จากนั้นอาหารจึงมาเสิร์ฟ เป็นขนมจีนน้ำพริก รสชาติไม่หวานเลี่ยน มีความเผ็ดนิดๆ…

Read More

เมื่อพูดถึงอาหารอินเดีย หลายคนคงนึกถึงอาหารที่มีกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ อาหารรสเผ็ด แล้วก็ปฏิเสธที่จะลองทานไปเลย ซึ่งจริงๆแล้วอาหารอินเดียถือเป็น หนึ่งในอาหารยอดนิยมอันดับต้นๆของโลก ที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่กับการใช้เครื่องปรุง เครื่องเทศที่หลากหลายและซับซ้อน จนเรียกได้ว่า ถ้าไม่ได้ลองอาหารอินเดียแล้ว ไม่สามารถเป็นนักชิมที่แท้จริงได้ วันนี้ kinlakestars.com ขอนำเสนอ Tasting menu ของ Panjab Grill ณ โรงแรม Radisson Suite ในซอย สุขุมวิท 13 ใกล้ๆสถานี BTS นานา ภายในตกแต่งด้วยบรรยากาศหรู มีครัวติดกระจกให้สามารถมองเห็น การทำงานของเชฟ กับเตาทันดูรี ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารอินเดีย เริ่มต้นกันด้วยผ้าเย็นเช็ดมือกลิ่นกุหลาบ มาในภาชนะกระเบื้องเคลือบสีขาว พร้อมกลีบกุหลาบสีแดง พนักงานจะเทน้ำลงในเมล็ดสีขาว ผ้าจะค่อยๆยืด และขยายตัวขึ้น สำหรับ tasting menu นี้ (1,490 baht net) ประกอบด้วย amouse bouche of the day ตามด้วย chaat (คล้ายๆกับจานสลัด) ต่อด้วย starter ที่เป็นของย่าง มี sorbet of the day เพื่อล้างปาก ก่อนไปสู่ อาหารหลัก และปิดท้ายด้วยของหวาน ถ้าหากอยากทาน wine paring ก็สามารถทำได้ที่ราคา 2100 baht net ครับ มาเริ่มกันที่เครื่องดื่มกันเลยดีกว่า นอกจากนี้ที่ Panjab Grill ยังมีทั้ง cocktail และ mocktail ที่น่าสนใจ โดยผมได้ลอง Nikki Te Tikhikhi ที่ชื่ออาจฟังดูแปลก และมีส่วนผสมที่น่าสนใจ คือ พริกเขียว ใบโหระพา ว้อดก้า มะนาวโซดา และเกลือ ที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน กำลังดี…

Read More