Author: sorawich

Haoma ร้านอาหารคอนเซ็ปต์ Sustainable Fine Dining ในซอยสุขุมวิท 31 โดย เชฟ Deepanker Khosla หรือ เชฟดีเค เชฟชาวอินเดีย ที่เคยอยู่เบื้องหลังร้านอาหารอินเดียชื่อดัง Charcoal Tandoor Grill & Mixology และ ร้านอาหารในเครือ Starwood ที่นำมาสร้างสรรค์เมนูแปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน ทั้งการตกแต่งและการปรุง การกินในบรรยากาศ ฟาร์มใจกลางกรุงเทพ นอกจากในส่วนของอาหารแล้ว เชฟ DK ยังสร้างสวนผัก สมุนไพรขึ้นมาในร้าน รวมไปถึง สร้างบ่อปลาขึ้นมา โดยทั้งระบบจะเป็นการออกแบบให้มี zero waste หรือ non carbon footprint ที่จะไม่ให้เกิดขยะ และทุกอย่างในครัวจะถูกนำมา recycle เพื่อเป็นปุ๋ย และ อาหารปลา รวมไปถึงแหล่งวัตถุดิบอื่น ก็จะผ่านการคัดเลือกในหลักการเดียวกัน ดังนั้น อาหารที่ได้ทาน นอกจากจะปลอดจากสารเคมี แล้วยังดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมด้วยครับ เมนูที่เราได้ไปรีวิววันนี้จะเป็น Haoma Mountain/Sea/Urban Farm 13 courses เป็น tasting menu 13 คอร์ส (2,990++) ที่สามารถจับคู่กับเครื่องดื่มที่ได้รับการเลือกสรรค์จากทางร้านได้ (2,590++) Galauti Cornet   วันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านมาร้านอาหารแนวใหม่เมนูใหม่ปลายปี 2019 เป็นร้านอาหารที่ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราได้นั่งทานอาหารอยู่ในสวนหลังบ้าน Haoma ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 เป็นร้านอาหารที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ร้านแบบ Progressive Urban- Farm Dining and Mixology คือ การรวบรวมวัตถุดิบคุณภาพ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเน้นเรื่องความยั่งยืน ในพื้นที่สีเขียวภายใต้ร่มเงาของ Haoma ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อโบราณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านนั่นเอง เริ่มต้นกันด้วยอมูชบูชสุดตื่นตา เป็เมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเคบับ ไส้จะทำจากเห็ด และมีการใช้ citrus gel โดยมีการปรุงรสด้วยเครื่องเทศแบบอาหารอินเดีย…

Read More

Enoteca ร้านอาหารอิตาเลียน ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 27 ในบรรยากาศ สงบ ที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้ย่านอโศกที่แสนวุ่นวาย ตัวร้านตั้งอยู่บนพื้นที่บ้านส่วนตัว ตกแต่งในสไตล์ร้านอาหารที่มี บรรยากาศอบอุ่น มีความหรูแบบคลาสสิค คอมเทมโพลารี่ แบบที่สามารถจะมาสังสรรค์กับเพื่อน ทานกับครอบครัว หรือ พาแขกมาทานแบบเป็นทางการก็ได้เช่นกัน ในส่วนของคอนเซปอาหาร Enoteca จะเป็นการนำเมนู traditional Italian หรือ อาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม มาผ่านการรังสรรค์ สร้างรสสัมผัส สร้างรสชาติใหม่ ให้เกิดเป็น modern italian ที่ไม่เหมือนใคร โดยสุดยอดเชฟมิชชินลินสตาร์ จากประเทศอิตาลี ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากตูริน Tu Vuo ‘Fa’ L’ Americano เพลงสุดคลาสสิคของ อิตาลี ที่มีความหมายในเชิงขำขันว่า You wanna be American โดยเชฟ Nicolas Bonazza ได้รับแรงบันดาลใจ จากเพลงนี้ มาสร้างสรรค์เมนู ที่คนทั่วไปคิดว่าเป็นเมนู อาหารชื่อดังดั้งเดิมของอิตาลี แต่ในความจริงเป็นอาหารที่ไม่มีในอิตาลี แต่มาปรุงและสร้างขึ้นมาในแบบฉบับของทางร้าน ที่หาทานที่ไหนไม่ได้ ในคอร์ส Tu Vuo’FA’ L’Americano (4 courses 1,800++, 5 courses 2,100++) ประกอบด้วย Amuse Bouche, Meat balls with spaghetti, Parmigiana di melanzane, Looking for alfredo, Chicken parmy, ตบท้ายด้วย Tiramisu dell’ Enoteca ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารเราขอพาทุกท่านมาเจอกับอะไรกรุบกริบๆอย่างขนมปัง ขนมปังที่นี่ยังคงดีงามมากไม่เปลี่ยนแปลง แถมพ่วงมาน้ำมันมะกอกคุณภาพสูง ซึ่งที่นี่จะแนะนำให้นำขนมปังกินคู่แค่กับน้ำมันมะกอกสดๆ จะไม่เอามากินผสมกับบัลซามิก ต่อมาคือสาคูที่นำมาทำให้เป็นแพและนำไปทอดกับหนังหมูกรอบสไตล์อิตาเลียน ก่อนเข้าสู่โปรแกรมอาหารของวันนี้ เราขอพาทุกท่านมาชมบัลซามิกแท้ๆที่ร้านอื่นๆมักไม่นำมาใช้กันเพราะแพงมาก ถ้าได้แค่ลองดม ก็จะได้กลิ่นที่หอมมาก ความหนืดคล้ายไซรัป และรสติดออกหวานๆ Amuse…

Read More

เมื่อพูดถึง BVLGARI ท่านๆทั้งหลายคิดถึงอะไรกันครับ แหวน? กำไล? สร้อย? หรือ น้ำหอม? ไม่แปลกที่จะคิดเช่นนั้น เพราะ BVLGARI เป็นแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำระดับโลกที่ไม่ว่าใครได้รับแล้วล่ะก็เป็นอันยิ้มไม่หุบกันไปหลายวันหลายเดือน แต่ในครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับ BVLGARI ในอีกแง่ นั้นคือ ร้านอาหาร ใช่แล้วครับฟังไม่ผิดหรอกครับ BVLGARI เองก็มีร้านอาหาร แถมยังอร่อยเลิศ สร้างสรรค์มากๆเสียด้วย ห้องอาหารอิตาเลี่ยน La Scala ของ โรงแรมสุโขทัย หนึ่งในสุดยอดร้านอาหารอิตาลี ในประเทศไทย มีเมนูพิเศษที่ได้ เชฟรับเชิญ Luca Fantin จาก BVLGARI Bali มาร่วมออกแบบเมนูพิเศษกับเชฟ David Tamburini ใน Italian Job Vol.5 ที่มีแรงบันดาลใจจากอาหารอิตาเลียนดั้งเดิม ผสมกับความเป็นเอเชีย ทั้งจากอาหารญี่ปุ่น (เชฟ Luca เคยประจำที่ BVLGARI Ginza) กับ วัตถุดิบอาหารจากเขตร้อน มาเป็นเมนูแปลกใหม่ที่หาทานที่ไหนไม่ได้ Carpaccio Di Capesante, Mais Ed Agrumi เป็น Hokkaido scallop มาปรุงแบบ carpaccio (ทานดิบ) มากับข้าวโพด และน้ำ citrus ตัวหอยมีความสดหวาน ทานตัดกับกลิ่นหอมของข้าวโพด มีรสสดชื่นของ citrus กับน้ำมันมะกอก เรียกน้ำย่อยได้ดีมาก Battuta Di Wagyu “Bruciato” เป็นการนำเนื้อวากิว มาเบิร์นผิวนิดหน่อย หั่นเป็นชิ้นเส้นเล็ก กินกับมะเขือยาวตามสไตล์ของอิตาลีทางตอนใต้ กับซิชิลี ตัวเนื้อหอมจากการเบิร์นผิว มีความนุ่มมันกำลังดี มะเขือยาวพูรี กับมะเขือก็หอมนุ่ม มีการตัดรสด้วย sea salt ทำให้มีรสเข้มขึ้น Spaghetti “Monogano Felicetti” Al Ricci Di…

Read More

เมื่อถึงช่วงฤดูร้อนของทางญี่ปุ่นกับยุโรป ก็จะเป็นช่วงเวลาผลิดอกของลาเวนเดอร์ ที่มีสีม่วงสวยงาม ส่งกลิ่นหอมสดชื่นไปทั่ว ในฤดูนี้ที่ Up & Above Bar โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ได้จัดชุดน้ำชายามบ่าย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ชุดน้ำชายามบ่ายของที่นี่ 1 ชุด (1,290++ บาท) ให้เราเลือกชา Mariage Frères ชาน้ำหอมจากฝรั่งเศสอันเลิศรส หรือ ชากลีบดอกบัวซาโรที (Saro Tea) หรือกาแฟอิลลี่ (Illy) ที่สามารถให้บริการทั้งแบบร้อนและเย็น ส่วนวันนี้ได้ลองชาพิเศษที่จะมีให้ดื่มกับชุดลาเวนเดอร์นี้เท่านั้น คือ ชา Mariage Frères – Vert Provence Vert Provence ระเบิดความหอมสดชื่น ด้วยกลิ่นหอมจากผลไม้และดอกไม้อันห่างไกลจากตัวเมืองใหญ่ เมืองโพรวองซ์ เมืองในภาคใต้ของฝรั่งเศส เพื่อที่จะสร้างสรรค์ความมหัศจรรย์ของดินแดนแห่งนี้ Mariage Frères ได้คิดค้น ชาเขียว ชั้นเลิศ กลิ่นหญ้าอ่อนๆผสมกับผลไม้จากโปรวองซ์ ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดงและสีดำ กับความสุกกำลังดี สร้างกลิ่นหอมที่แรง กลิ่นหอมที่แสนผ่อนคลายและอบอุ่นจากลาเวนเดอร์ อีกทั้งกลิ่นอันแสนกลมกล่อมและความหวานของกลีบกุหลาบ จากกุหลาบป่าสีแดงจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอมและรสแบบฟรุตตี้จากเหล่าเบอร์รี่ที่พบและปลูกในจังหวัดโพรวองซ์ ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เจือดอกลาเวนเดอร์และกลีบกุหลาบ เมื่อคุณดื่มด่ำ ลิ้มรส ดอมดม คุณจะได้ความรู้สึกเหมือนดั่งได้เดินผ่านป่าไปยืนอยู่กลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ช่วงฤดูร้อน ในเมืองโพรวองซ์อย่างไรอย่างงั้นเลยทีเดียว คุณลักษณะของชา : #Fruity & flowery #Rose #Green Tea #Scented Tea ในลิ้นชักด้านหนึ่งนั้นมี Savory อยู่มากมาย Vegetarian Pesto Brioche with Ikura เป็นชิ้นที่ผมชอบที่สุดใน ชุด Savory ตัวผักด้านในให้กลิ่นหอม จากตัวผักย่างและชีส ให้ความรู้สึกเหมือนกิน Ratatouille อยู่ Traditional Cucumber Sandwich ให้ความสดชื่นเบาๆ รสชาติมาตรฐาน Artisan Salmon Gravlax ตัวนี้ ทำมาได้สีสวยมาก ตัวแซลมอนมีความ นุ่ม หอม ไม่เค็มเกินไป รสชาติดี Coronation…

Read More

ข้าวแช่ อาหารที่แสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทย ที่คิดค้น ตำรับอาหาร ที่นอกจากอร่อยช่วยดับร้อน ให้ความหอมสดชื่น ทานแล้วช่วยดับร้อนในช่วงฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเมษายน จึงเป็น ฤดูของการทานข้าวแช่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ ทาง kinlakestars.com ได้มีโอกาสไปลองชิม เมนูชุดข้าวแช่ ของห้องอาหาร Siam Tearoom ของโรงแรม Marriot Marquis ซึ่งจะเริ่มขายในเดือนเมษายนนี้ ในราคาชุดละ 490++ บาท หรือ สั่งกลับบ้านในราคาชุดละ 590++ บาทครับ ในชุดข้าวแช่จะประกอบด้วยเครื่องเคียง 7 อย่าง ลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ หอมแดงยัดไส้ปลา หมูฝอย ปลายี่สนผัดหวาน ไช้โป๊วผัด อัญชันยัดไส้กุ้ง พร้อมผักสดเคียง ถ้าพูดถึงความแตกต่าง ข้าวแช่ที่นี่ จะเน้นเป็นการทำรสชาติของท้องถิ่น แบบราชบุรี ตำรับมอญ ที่จะใช้วัตถุดิบจากราชบุรี และมาจากแหล่งออร์แกนิค ไม่ว่าจะเป็น ปลาช่อนนา ปลาสลาก ไชโป๊ว น้ำตาลมะพร้าว น้ำมะนาว โซดา ส้มซ่า แสนหอม หวาน เปรี้ยวนิดๆ สดชื่น เริ่มต้นมื้ออาหารในช่วงฤดูร้อนๆกันด้วยเครื่องดื่มสุดแสนสดชื่น นั้นก็คือมะนาวโซดา สุดแสนจะหอมจากใบส้มซ่า หวานอมเปรี้ยวไปกับมะนาวเขียว ต่อกันด้วยแตงโมปลาแห้ง ซึ่งเมนูนี้เป็นที่ยอดนิยมของสยามในอดีต ที่นิยมกินกันช่วงฤดูร้อน ช่วยให้ดับกระหายคลายร้อน ตัวข้าวแช่ ตัวข้าวแช่จะเป็นข้าวออร์แกนิค ที่นำไปแช่ในน้ำจาก ดอกจำปี กระดังงา ชมนาด และกุหลาบมอญ ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ เย็นสดชื่น คลายร้อนได้เป็นอย่างดี ลูกกะปิ ลูกกะปิจะเป็นกะปิอย่างดี เคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ปั้นเป็นก้อนและชุบไข่ทอด มีความหอมหวาน อร่อย เมื่อกินตามด้วยกระชาย จะมีกลิ่นหอม ซ่า เบาๆของกระชาย ตามด้วยข้าวแช่เย็นสดชื่น เป็นการรวมตัวของรสชาติ และกลิ่นที่ดีมากๆ ไชโป๊วหวาน ไชโป๊วหวาน ของที่นี่จะเป็นไชโป๊วจากโพธาราม ที่มีชื่อเสียง นำมาล้าง อบควันเทียน ก่อนจะเคี่ยวในน้ำตาลมะพร้าว จะมีความหอม…

Read More

ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นช่วงที่ครอบครัวจะมาพบกันพร้อมหน้าพร้อมตา และหนึ่งในกิจกรรมที่หลายครอบครัวมักจะทำร่วมกัน คือการหาอาหารอร่อยๆ มารับประทานร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา การทำ พูด คิดในสิ่งที่เป็นศิริมงคล ก็ถือเป็นธรรมเนียมที่ครอบครัวคนจีนถือปฏิบัติ การกินอาหารที่เป็นมงคลร่วมกัน ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่จะนำสิ่งดีๆเข้ามาตลอดทั้งปี Shang Palalce หนึ่งในห้องอาหารจีนกวางตุ้งขึ้นชื่อติดท๊อปประเทศมาตลอด ที่เปิดมายาวนาน เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ทาง Kinlakestars.com แนะนำว่าควรค่าแก่การมาฉลอง มาลิ้มรส โดยเฉพาะยิ่งช่วงตรุษจีนที่จะมาถึงนี้ทางห้องอาหารได้จัดเตรียมเมนูสุดมงคลทั้งอร่อย ทั้งมากด้วยความหมายอันมงคลจากรากฐานประเพณีอันยาวนาน เริ่มต้นกันด้วยเครื่องดื่มแสนสดชื่นสุดจะเป็นมงคล Mandarin Tea Mocktail แก้วนี้เหมาะสมกับช่วงตรุษจีนมาก ด้วยความหมายมงคลของส่วนผสมและรสชาติที่เปรี้ยวหวานสดชื่น เหมาะสมกับการเริ่มต้นปีใหม่อย่างเทศกาลตรุษจีน ส่วนประกอบหลักคือน้ำส้ม ส้มในความหมายของชาวจีนหมายถึงโชคลาภและความร่ำรวย ในช่วงปีใหม่จีน ชาวจีนมักนิยมมอบส้มให้กัน นอกจากนี้ยังมีทั้งชาจีน และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับในช่วงตรุษจีนปีนี้ (4 – 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562) ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ จัดเมนูพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาล “โหล่วเหยหยี่ซัง” หรือ สลัดแห่งความมงคลสมบูรณ์พูนสุข มาให้ทานเฉพาะในช่วงเวลานี้เลยครับ “โหล่วเหยหยี่ซัง” เป็นเมนูที่เน้นความเป็น มงคล ทั้งนั้นการเลือกส่วนผสม วัตถุดิบ ที่มีความหมายเป็นมงคล ในการคลุกก็จะมีการพูดสิ่งดีๆ ที่เป็นมงคล เป็นกิจกรรมที่พอสนุกสนานในครอบครัว ส่วนผสมของ “โหล่วเหยหยี่ซัง” จะมีดังนี้ครับ ปลาดิบ (Sheng Yu) มาจากสำนวน nian nina you yu ร่ำรวยตลอดปีส้มโอ (You Zi) มาจากสำนวน Da Ji Da Li โชคดีมีชัยแครอท (Hong Luo Bo)  มาจากสำนวน Hong Yun Dang Tou ประสบมหาโชคหัวไชเท้า (Bai Luo Bo) มาจากสำนวน Feng Sheng Shui Qi, Bu Bu Gao…

Read More

สวัสดีครับ วันนี้ทาง kinlakestars.com ได้รับเชิญไปร่วมงาน Organic Wine & Food Pairing ที่ Prime + Urban Grill Restaurant & Bar ในบรรยากาศฟังเพลงแจ๊สเล่นสด กับอาหาร 5 คอร์ส ที่จับคู่มากับไวน์ที่ถูกเลือกมาอย่างดี จากซอมเมอริเย่ของทางร้าน และทุกเมนูและไวน์มาจากการปลูกแบบออร์แกนิค สำหรับจานแรกจะเป็น Lobster, Ricotta & Truffle Ravioli เป็นราวิโอลี่ไส้ริต้อตต้าชีส ทานกับทรัฟเฟิล และ เนื้อล็อปสเตอร์ ตัวล็อปสเตอร์ มีความสดหวานเด้ง เข้าได้ดีกับราวีโอลี่ ที่มีชีสรสนุ่มๆ ราดด้วยซอสน้ำมันมะกอกรสเค็มบางๆ ตัดด้วยมะเขือที่อมเปรี้ยวนิดๆ เริ่มต้นมื้อด้วยรสชาติเบาๆ ทานคู่กับ Berlucchi’61, Franciacorta Brut DOCG Franciacorta เป็น sparkling wine นุ่มๆ ที่ให้ความสดชื่น กับรสหวานบางๆ เรียกน้ำย่อยได้ดี สำหรับจานที่สอง Roasted Organic Stuffed Baby Chicken With Saffron & Pistachio Foam เป็นไก่เนื้อนุ่ม ตัวพิชตาชิโอโฟม ทำได้รสชาติดี หอม แต่รสชาติโดยรวมยังอ่อนไปนิด ทานคู่กับ Chardonnay “Le Jarron” Saint Romain AOCBurgundy Sea Bass With Meyer Lemon Puree & Zucchini Salad เป็นจานปลาที่ย่างมาได้กำลังดี เนื้อปลามีความสดหวาน ตัวซุกินี่ สลัดเข้ากันได้กีกับเนื้อปลา เป็นจานที่ทำได้ดีเลย ทานคู่กับ Figuiere, Premiere, Cotes de Provence Rose, AOPFrance 2017…

Read More

การที่จะหาอาหารไทย ในรสชาติไทยแท้ ที่ถึงรสถึงเครื่อง รสชาติทำได้ถึง กลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพรครบ ปัจจุบันหาได้ยากขึ้นทุกที หลายครั้งมีการตัดเครื่องเทศ และ เครื่องปรุงบางอย่างออกไป ทำให้รสชาติ กลิ่นไม่สมบูรณ์ บางทีก็มีการปรับรสชาติให้หวาน ตัดทอนความถึงเครื่องลงไป ในวันนี้ผมและ Kinlakestars ได้มารีวิวร้าน SAAWAAN ที่เป็นอาหารไทยในรูปแบบ fine dining ที่มีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ มาสร้างเป็นเมนูไทยรสชาติแท้ๆ ใช้วัตถุดิบอย่างดี จัดแต่งสวยงามมาในรูปแบบที่คาดไม่ถึงว่านี่คือ อาหารไทย แม้จะเป็นร้านที่ฝังตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ แต่ทว่าทางร้านก็สามารถเนรมิตพื้นที่ที่มีทั้งขนาดและรูปทรงอย่างจำกัดออกมาได้อย่างดงาม ตามชื่อร้านสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนผนังฝั่งนึงที่เป็นสีดำและมีลวดลายเมฆที่ทำจากโลหะ หรืออีกฝั่งที่มีลวดลายดอกไม้ขาวบนพื้นสีชมพูพีช ครัวที่เป็นครัวเปิด ทุกท่านสามารถเห็นเชฟทั้งทำ ทั้งจัดจานได้ทุกขั้นตอน ร้าน SAAWAAN (สวรรค์) ตั้งอยู่บน ซอยสวนพลู ย่านสาทร ตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น ทันสมัย เหมาะกับการสังสรรค์กับเพื่อนๆ สำหรับรูปแบบอาหารจะเสิร์ฟเป็นแบบ คอร์ส ตั้งแต่อาหารจานก้อย ไปจนถึงขนมหวาน ในราคา (1,950++) สามารถที่จะ wine paring หรือ tea pairing ด้วยก็ได้ครับ ก่อนเริ่มคอร์สก็จะมีการเสิร์ฟ amouse bouche ตามธรรมเนียมของ fine dining โดยจะเป็น ไข่ลูกเขย ที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นไข่ลูกเขยที่นำไข่แดงไปซูวี ใส่ครีม น้ำตาลมะพร้าว น้ำมันพริก ซอสมะขาม จัดมาในเปลือกไข่ดูน่ารัก ก่อนทานคนทุกอย่างให้เข้ากัน รสชาติหอมน้ำตาลมะพร้าว นุ่มเนียนจากครีมและไข่แดง อมเปรี้ยวและเผ็ดเบาๆ รสชาติอร่อย เรียกน้ำย่อยได้ดีมาก จานแรกของคอร์สจะเป็น จานก้อย Raw ก้อยปลา ซึ่งจานนี้ทางร้านจะมาทำสดๆให้ถึงโต๊ะเลยครับ สำหรับจานก้อยนี้จะใช้ปลาฮามะจิดิบ นำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อให้รสสัมผัสของปลาไม่เปลี่ยนแม้จะโดนน้ำยำ ในส่วนน้ำยำก็จะครบเครื่องสมุนไพรไม่ว่าจะเป็น หอมแดง ตะไคร์ซอย หอมซอย ใบมะกรูด น้ำส้มซ่า น้ำมะกรูด พริกป่น ข้าวคั่ว ที่พิเศษคือมีใส่ ผักแขยง และ ดอกผักปลั่งเพิ่มเข้าไป เมื่อเข้าปากกลิ่นสมุนไพรหอมมากโดยเฉพาะข้าวคั่ว มะกรูด รสชาติถึงเครื่องมากเปรี้ยวนำ…

Read More

ในไลฟ์สไตล์คนเมืองปัจจุบัน ที่มีทั้งความเร่งรีบ ความเครียดสะสมต่างๆ รวมถึง การเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดสรีระ ล้วนแต่ส่งผลให้ทำให้เรามีความไม่สบายตัว มีอาการปวดตัว ไม่สบายตัว หรือในบางครั้ง เราก็อยากที่จะหาที่ผ่อนคลาย ทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และพร้อมที่จะกลับมาใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์แบบที่เราต้องการ วันนี้ทาง kinlakestars.com ขอเสนอรีวิวการนวดสปา  ที่ ซีซั่นสปา ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ บนถนนวิทยุ ในสปามีบรรยากาศผ่อนคลายในแบบรีสอร์ท ที่ออกแบบมาให้มีความผ่อนคลาย แต่ยังมีความหรูหรา และ ปราณีต ซีซั่นส์ สปา -โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ โอเอซิสแห่งการเยียวยากายและใจ ที่เข้าถึงศาสตร์การนวดและหัตถการเข้าไว้ด้วยกันฉบับผสมผสานไทยและต่างชาติท่านจะได้รับการปรนนิบัติจากผู้เชี่ยวชาญตามโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาตามหลักวิทยาศาสตร์ภายในบรรยากาศผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ทที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติเขียวขจีผนวกความหรูหราและความประณีตเพื่อให้ท่านเข้าถึงบรรยากาศที่ออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ณ ชั้น7โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ที่ ซีซั่นส์ สปา ตระหนักดีว่าความสมดุลทางใจมีความสำคัญเฉกเช่นความสมดุลทางกาย ซึ่งมาพร้อมกับความสัมพันธ์ของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซิกเนเจอร์ทรีทเม้นต์ของเราจะช่วยให้คุณเข้าถึงความสุขที่ยั่งยืนผ่านศาสตร์การนวดและหัตถการของเราโดยแบ่งตามกลุ่มของเคมีในสมองได้ดังนี้ เซโรโทนิน (serotonin) การนวดผสมผสานทรีทเม้นต์ที่ช่วยปลดล็อคความไม่สบายกายและความกังวลใจ ที่ช่วยปลอบประโลมจิตให้เดินทางสอดคล้องกับความสงบในจิตใจ ให้คุณได้สมดุลในการใช้ชีวิตกลับคืนมา   โดปามีน (dopamine) ให้รางวัลตัวเองด้วยการปรนนิบัติกายใจของคุณ ด้วยการนวดและหัตถการที่ช่วยปลุกประสาทสัมผัส กระตุ้นให้ร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่าผ่านทางร่างกายเข้าสู่จิตใจเพื่อผลลัพท์ที่ดีจากภายใน และเสริมสร้างความรักที่มีให้กับตัวเอง เอนโดรฟิน(endorphins) นวดและหัตถการที่เน้นลงน้ำหนักกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขเพื่อลดความเจ็บปวดเมื่อยล้าตามวิถีธรรมชาติ คืนความแข็งแรงให้สุขภาพใจ เพิ่มอำนาจในการเข้าถึงความสุขสมดุลทางใจและกายอย่างแท้จริง ห้องทรีทเม้นต์และหัตถการ -ทั้ง 11 ห้องถูกดีไซน์ให้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องบุษยมาศ– ห้องเตียงคู่ เพรสสิเดนเชียล สปา สวีท ติดตั้งด้วยอ่างจากุซชี่ตรงกลางห้อง ห้องอาบน้ำ ห้องสตรีม และห้องแต่งตัว ห้องลินจง– ห้องเตียงคู่ ติดตั้งด้วยอ่างอาบน้ำแบบญี่ปุ่น (Sunken Bath Tub) ห้องอาบน้ำ ห้องสตรีม และห้องแต่งตัว พร้อมห้องทรีทเม้นต์มาตรฐาน 4 ห้อง ห้องนวดไทย 2 ห้อง และ ห้องเตียงคู่ 3 ห้อง ด้วยกัน และ ห้องพักผ่อนหลังจากการทำทรีทเม้นต์ ก่อนที่จะเข้าไปทำทรีดเมนต์ ทางพนักงานจะนำเครื่องดื่ม น้ำมะตูม และผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้…

Read More

วันนี้ทาง kinlakestars.com ภูมิใจนำเสนอ รีวิว ร้านอาหารอิตาลี ในบรรยากาศสบายๆ ที่อยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ในซอย สุขุมวิท 49 บนชั้นสอง ของโครงการ 49 terrace เมื่อเข้าไปในร้านก็จะพบกับ บรรยากาศสบายๆ แต่ก็มีความหรูแบบเรียบง่าย ให้มีความรู้สึกสบายสามารถนั่งพูดคุย ทานอาหารได้โดยไม่ต้องรู้สึกกดดัน เป็นทางการมาก นอกจากนี้ ยังมีโซนเทอร์เรซ ที่เป็นระเบียงกลางแจ้ง ที่ในวันอากาศดีๆ จะให้ความรู้สึกโปร่ง ผ่อนคลายได้ดีมากครับ ปกติเมื่อพูดถึงอาหาร อิตาลี หลายๆคน จะนึกไปถึงแค่เพียง พิซซ่า หรือ พาสต้า รู้สึกว่าแต่ละที่ก็คล้ายๆกัน หาความแตกต่างได้ยาก แต่เมื่อมาถึงที่ร้าน La Bottega นี้ ตัวเมนูมีความหลากหลายมาก ทั้งในส่วนของพาสต้าที่มีการทำเส้นสด หรือ ของว่างพวก antipasti จานเนื้อก็มีหลากหลายเมนู ซึ่งทางร้านได้มีการใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้ามาจากแหล่งที่ดีที่สุด เริ่มต้มอุ่นเครื่องกันด้วยขนมปังชั้นเลิศที่นุ่มอุ่น รสดีมาก และผสานกับน้ำมันมะกอกชั้นเลิศจากอิตาเลียน BIO และบัลซามิกรีเซิร์ฟ เรียกน้ำย่อยกับแชมเปญสัญชาติอิตาเลียนสุดพรีเมียมอย่างเฟอรารี่ ซึ่งดีงามเหมาะกับอาหารที่นี่เป็นอย่างมาก สำหรับจานแรกที่ได้รีวิว จะเป็น หนวดปลาหมึกยักษ์ ทานคู่กับ กรีนพีซอส และ เชอรี่คอนฟี หนวดปลาหมึกยักษ์ นำเข้ามาจากสเปน ผ่านการ slow cook ให้นุ่ม ก่อนที่จะมาย่าง ทำได้นุ่ม มีความเหนียวกำลังดี ตัดด้วยซอสกรีนพี ที่มีความอมหวานนิดๆ ให้ความสดชื่นของผัก ตัดกับความเข้มของปลาหมึกได้ดี ตัวเชอรี่คอนฟี ก็อร่อย หอมหวานอมเปรี้ยว ทานรวมกัน ให้รสชาติเบาๆ อร่อยมาก หอมด้วยน้ำมันมะกอกอย่างดี จากซิซิลี เป็นจากเรียกน้ำย่อยที่ทำได้ดีมากครับ ถัดมาเป็นจาก พาสต้า ที่เป็นเส้นพิเศษเป็น เกลียวบิดด้วยมือ ทานกับไข่ปลา ที่เป็นสูตรเฉพาะของเชฟ ที่นำไข่ปลาจากเกาะซาดีเนียของอิตาลี ตากแห้ง และซอสที่มีส่วนผสมของไข่ปลาอีกที ตัดความคาวด้วยพาสลีย์สด ผสมในซอส ตัวไข่ปลาให้รสสัมผัสที่เข้มข้น แน่นและเหนียวนิดๆ อาจออกคาวนิดๆ เมื่อตัดด้วยพาสลีย์ ลดความคาวได้ดี รสชาติอร่อยกำลังดี เหมาะกับคนที่ชอบลองทานอาหารแปลกใหม่ครับ…

Read More