ครั้งนี้ ทางห้องอาหาร Voilà! จัดเต็ม จัดหนักจริงๆ สำหรับอาหารทะเล เนื่องจากห้องอาหารฯ ได้คัดสรรอาหารทะเล จากทั่วทั้งประเทศไทย อาทิเช่น กุ้งแม่น้ำ กุ้งลายเสือ ปูม้า หอยหวาน และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยปรุงสุกอื่นๆ ให้เลือกทานกันอีกมากมายเช่นกัน และยังไม่หมดแค่นี้ พิเศษสุดๆ สำหรับคนรักชีส กับ Cheese Room ซึ่งมีชีสหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง มาทานกัน ห้องอาหารตั้งอยู่บน ชั้น 2 ของ โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท เดินทางสะดวกมากๆ เพราะโรงแรมฯ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก และ นานา มีคนปีนป่ายข้างหน้าด้วย ซุ้มสไตล์ไทยๆ ภายใต้คอนเซ็ปท์ Thai Seafood Buffet เข้ามาข้างใน ก็มีที่นั่งให้เลือกหลายมุม หลายแบบ นั่งซักพัก ก็มี Welcome Drinks มาให้ เป็น น้ำกระเจี๊ยบ มาเริ่มดูไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเลยดีกว่า เป็นพวก Seafood on Ice เต็มอิ่มกับ กุ้งลายเสือตัวโต เนื้อแน่นๆ สดๆ หอยหวานก็มา ตัวกำลังดี ตัวไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป ปูม้า ถูกวางเรียงรายบนน้ำแข็งเต็มไปหมดเลย ซูมซักหน่อย กุ้งแม่น้ำก็มาพร้อมเช่นกัน นอกจากกุ้งแม่น้ำ หรือ กุ้งลายเสือ ก็ยังมีกุ้งแบบนี้ด้วย พูดถึงอาหารทะเล ถ้าขาดสิ่งนี้ไปก็คงเหมือนขาดอะไรไป นั่นก็คือ น้ำจิ้มซีฟู๊ดนั่นเอง รสชาติจัดจ้าน จี๊ดจ๊าดมากๆ และนอกจากน้ำจิ้มซีฟู๊ด ก็ยังมี เลมอน น้ำจิ้มค๊อกเทล และ มายองเนส ด้วยนะครับ ของทะเลถูกจัดรวมๆ มาในจานใบใหญ่ นอกจากซีฟู๊ดทานแบบเย็นๆ แล้ว ยังมีแบบเผาด้วย โดยเลือกจากไลน์อีกฝั่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ ปลาแซลมอน ปลาหมึก เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ก็มา…
Author: Kreingkrai
มาสัมผัสสุดยอดประสบการ์ณอาหารอิตาเลียนจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ บินมาเพียง 5 วันนี้เท่านั้น สวัสดีครับ เดือนนี้ทางห้องอาหาร Rossini’s แห่งโรงแรมเชราตันแกรนด์ สุขุมวิท ไดเชิญ Michelin Star Chef จากอิตาลี มารังสรรค์อาหารมื้อพิเศษรสเลิศให้ได้ลิ้มลองกันนะครับ พร้อมทั้งจิบไวน์คุณภาพดี ที่เข้าคู่กับอาหารอย่างลงตัวไปด้วย ซึ่งจะมีขึ้นเพียง 5 วันเท่านั้น คือ 15 – 19 พย. นี้ เท่านั้น เชฟที่ให้เกียรติมาในครั้งนี้ ก็คือ Chef Fabio Rossi ซึ่งขณะนี้เชฟเป็นกำลังสำคัญที่อยู่เบื้องหลังร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังในเมือง San Patrignano นั่นก็คือ ร้าน ” Vite ” นั่นเอง โดยเชฟมีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารอิตาเลียนสไตล์ดั้งเดิม และ คงยึดคอนเซปท์ Farm to Fork คือ วัตถุดิบต่างๆ ส่งตรงมาจากฟาร์มออร์แกนิค และ เป็นผลผลิตอินทรีย์ปลอดสารพิษ พอมาถึง เขาก็จะมาเสิร์ฟขนมปัง และ แอนติพาสตี้ก่อน ทานคู่กับ Avenir Brut, San Patrignano NV อันนี้เป็นแอนติพาสตี้ ก็จะมี ชีส และ แฮมต่างๆ ชีสจะให้มา 2 อย่าง อย่างแข็ง กับ นิ่ม ตัวที่แข็งจะคล้ายๆปาร์มีซาน มีกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนแบบนิ่ม มีความรู้สึกจะคล้ายเชดด้า ผสมกับ มอสเซอเรลล่านิดๆ ส่วนตัวชอบแบบนิ่มมากกว่า แฮมก็จะมีหลากหลายแบบ ชอบอันซ้ายสุด เขาบอกว่าจะคล้ายๆ ซาลามี่ แต่ตัวนี้จะไม่ได้ผ่านการหมัก เนื้อจะหนึบๆ รสชาติดี Avenir Brut, San Patrignano – NV จานแรกเชฟก็โชว์ทำที่ข้างหน้าเลย เชฟกำลังตักวอเตอร์เครสซอสใส่จาน งานนี้เชฟฟาบิโอไม่ได้มาคนเดียว ได้พาผู้ช่วยมาช่วยด้วย กำลังวาง Scallop ตัวโตลงบนจาน Chef…
พูดถึงอาหารอิตาเลียน คงไม่พ้นเมนู พิซซ่า วันนี้ ทีม Kinlakestars เลยพามาลองลิ้มรสพิซซ่าอิตาเลียนแท้ๆ โดยเชฟ สเตฟาโน่ ผู้เชี่ยวชาญในการทำอาหารอิตาเลียนแบบไฟน์ไดนิ่ง เราเลยมากันที่ ห้องอาหาร JOJO แห่งโรงแรมเซนต์รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมฯ ภายในมีโต๊ะให้นั่ง หลากหลายมุมกันเลยทีเดียว โคมไฟทรงกระสวย อลังการ และ โดดเด่นมาก ตั้งอยู่ใจกลางห้องอาหาร ภายในก็จะตกแต่งด้วย กรอบรูป และ ขวดไวน์ ไว้ที่ผนัง มีห้องไวน์ ให้เลือกสรรไวน์คุณภาพ เมนูจะอยู่ที่บอร์ดข้างบน จะมีพิซซ่าให้เลือกหลากหลายหน้าให้เลือกกัน เชฟประจำห้องอาหาร JOJO – Chef Stefano Merlo พร้อมแล้ว มาดูเมนูวันนี้กันเลย เริ่มจาก Al Tatufo Pizza เขาทำให้กันสดๆ เลย เริ่มจากคลึงแป้งเป็นแผ่น จากนั้นก็ทา Black truffle paste ลงบนแผ่นแป้งพิซซ่า โรยชีส และวางมันฝรั่ง ลงบนชีส อีกที แล้วนำเข้าไปอบในเตา เห็นชีสกำลังเดือดพลุบๆอยู่ข้างในเตา น่าทานสุดๆ ออกมาแล้วครับ Al Tatufo Pizza ( Black Truffle – Potato) ตัวนี้รสชาติจะอ่อนๆ ทานง่าย มีกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลเบาๆ เค็มนิดๆ กำลังดี ส่วนมันฝรั่งสุกกำลังดี นุ่ม ตัวแป้งพิซซ่าบาง มีความกรอบบริเวณขอบ ส่วนตรงกลาง จะมีความนุ่ม มีความหนึบๆ นิดหน่อย รู้สึกได้ว่าก็มีความกรอบมีผิว แต่ก็มีความนุ่มด้วย และ เชฟก็แนะนำให้ทานพิซซ่ากับเบียร์ตัวนี้ พิซซ่าที่นี่จะไม่ได้เยิ้มๆ ยืดๆ เหมือนพิซซ่าข้างนอกนะครับ อาจจะเป็นเพราะชีสที่ใช้ แต่บอกเลยว่า ถึงไม่ยืด แต่รสชาติเข้มข้น หน้าต่อมา Piccante Pizza จะโรยด้วยซูกินี ชีส และ หอมแดง…
กิ๊บเก๋กับการตกแต่งสุดชิคที่แสนสวยไม่ซ้ำใคร กับห้องอาหารน้องใหม่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท กับอาหารนานาชาติ ที่ผสานจากหลากวัฒนธรรม และความพิเศษคือ เมนูเฮลตี้ รสดี หน้าตาน่าลอง พิเศษเมื่อจองผ่าน FB Page ในนาม KinlakeStars.com ลดทันที่ 20% คราวนี้ ทางทีม Kinlakestars ได้มาลองลิ้มชิมรสอาหาร ที่ห้องอาหาร Food Exchange โรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 กัน ซึ่งโรงแรมโนโวเทลโรงนี้ เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานนี้เอง ส่วน ห้องอาหารฯ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 7 ของโรงแรมฯ ซึ่งจะมีจุดสังเกต ตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าห้องอาหารเลย นั่นก็คือ รถสามล้อขายขนมหวาน และ ตู้ไวน์หลายตู้วางเรียงยาว พอเดินเข้าไปภายในตัวห้องอาหาร ก็พบกับครัวเปิดของห้องอาหารอยู่ข้างใน ซึ่งจริงๆจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก จะเป็น Global Exchange และ อีกส่วน คือ Local Exchange ซึ่งเป็นไปตามชื่อของห้องอาหารว่า Food Exchange คือ การผสมผสานระหว่าง อาหารของบ้านเรา กับ อาหารนานาชาติ นั่นเอง ซึ่งนอกจากอาหาร ที่มีการแลกเปลี่ยนกัน ระหว่างประเภทแล้ว ทางห้องอาหาร ก็มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างแขก และเชฟ นั่นก็คือ บางเมนูของที่ร้าน จะมีเชฟมาปรุงให้ถึงโต๊ะกันเลย เพื่อให้แขกได้มีส่วนร่วมในการปรุงอาหารด้วย ภายในถูกตกแต่งให้มีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง เสมือนได้นั่งทานอาหารชิวๆ อยู่ใน Food Court ภายใต้แสงไฟที่เปรียบเสมือนโคมลอย ที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ถึงบรรยากาศจะดูง่ายๆ แต่ต้องบอกเลยว่า อาหารของเขาแต่ละจาน ไม่ง่ายเลย มาดูกันเลยดีกว่าครับว่าจะมีเมนูอะไรบ้าง เริ่มกันที่เมนูเส้นแล้วกัน Thai Northern style Noodle soup with Chicken (350 บาท) หรือ ข้าวซอยไก่…
หามื้อเที่ยง อิตาเลียน ดีๆราคาสุดคุ้มอยู่หรือไม่ ที่นี่สามารถตอบโจทย์คุณได้ดี และสุดยอดฟอคคาเซียที่ห้ามพลาดและ สวรรค์ของคอฟลอกราเชีย เพราะเติมได้ไม่อั้น ชิ้นเดียวไม่เคยพอ วันนี้ทีม Kinlakestars ได้มาเยือนถึงห้องอาหารอิตาเลียน แห่งโรงแรมอนันตรา สยาม นั่นก็คือ ห้องอาหาร Biscotti นั่นเอง ซึ่งวันนี้ก็จะได้มาลื่มลองบุฟเฟ่ต์แอนตี้เพสติ ในสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ กัน ลองเดินดูรอบๆ บรรยากาศสบายๆ มีครัวเปิดด้วย อยู่บริเวณด้านหน้าเลย Chef Daniele Bettini เชฟชาวอิตาเลียน ซึ่งประจำอยู่ที่ ห้องอาหาร Biscotti แห่งนี้ พูดถึง คำว่า “Anitpasti ” หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าคืออะไร ??? “Antipasti ” คือ หนึ่งในหมวดของอาหารอิตาเลียน อารมณ์จะประมาณของทานเล่น เช่น พวกแฮม สลัด ชีส ขนมปัง เป็นต้น แต่ถึงจะบอกว่าอาหารทานเล่น แต่สำหรับ Biscotti เขาไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ นะครับ เพราะเขาจัดเต็มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแฮมที่หลากหลาย ชีส ซีฟู๊ดต่างๆ เขาก็ยังมีอีกหนึ่งอย่างทีคนที่มาทานที่นี่ ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ Mascapone Focaccia ซึ่งพี่ผู้จัดการร้านถึงกับบอกว่า ” ถ้ามาถึง Biscotti แล้วไม่ได้ทาน เหมือนไปเชียงใหม่ แล้วไม่ได้ทานไส้อั่ว ” พูดกันขนาดนี้แล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าบนไลน์ Anitpasti Buffet จะมีอะไรบ้าง เริ่มที่พระเอกของที่นี่เลยแล้วกัน Mascapone Focaccia แป้งขนมปังโฟกาเซียนุ่มสอดไส้ด้วยชีสเยิ้มๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Mascapone cheese ซึ่งให้รสชาติเข้มข้น มีความเป็นครีมๆ ในขณะเดียวกันก็มีเนื้อสัมผัสที่ยืดจากชีสอีกชนิด คาดว่าน่าจะเป็น Mozzarella Cheese พอทานพร้อมกันทั้งแป้งโฟกาเซีย และ ชีส แล้ว รสชาตินัวมากๆ สมคำล่ำลือจริงๆ ซึ่งสามารถทานได้ไม่อั้นเลย ต่อมาก็จะเป็น…
วันนี้ทางทีม Kinlakestars ได้มาลิ้มลองอาหารโปรตุเกส พร้อมกับฟังเพลงโปรตุเกสชิวๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ งาน Big Fish ที่โรงแรมรอยัลออร์คิด เชอราตัน Big Fish Bangkok River Music Festival เทศกาลดนตรีริมน้ำประจำปีในเขตกรุงเทพฯ แต่ละปีคุณจะเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงดนตรียามเย็นอย่างต่อเนื่องที่มีมากกว่า 10 แนวดนตรี โดยที่โรงแรมหรูๆริมแม่น้ำ สถานบันเทิง ร้านอาหาร และสวนริมแม่น้ำ จะมีการแบ่งแนวดนตรีแตกต่างกันออกไปเพื่อสร้างสีสันให้ชีวิตยามค่ำคืน ทั้งแนวคลาสสิค แจ็ส ดนตรีย้อนยุค60-70 จังหวะลาติน เป็นต้น ภายใต้ธีมเสียงเพลงและสีสันดนตรีโปรตุเกส เพื่อฉลองที่ฟุตบอลยูโรปีนี้ประเทศโปรตุเกสชนะและความสัมพันธ์ระหว่างไทย – โปรตุเกสที่มีมาอย่างยาวนานโดยมีวงดนตรี “Sunny Side Up” ชาวโปรตุเกส และ DJ Zomzii มาสร้างสีสันระหว่างเวลา 19.30 น. – 24.00 น. ณ บริเวณล๊อบบี้ เลาจน์ ของโรงแรมฯ คืนนี้มีนักร้อง ชาวโปรตุเกส วง ‘ Sunny Side Up ‘ มาร้องเพลงผสานเสียงให้ฟังกันด้วย ภายในงาน ก็จะมีอาหารโปรตุเกส ให้เราได้ทานกัน ซึ่งหาทานได้ค่อนข้างยากในเมืองไทย ซึ่งจะมาในรูปแบบ Finger Food เราสามารถเลือกหยิบได้จากไลน์บุฟเฟ่ต์ที่จัดไว้ หรือ ก็สามารถหยิบจากบริกรที่เดินรอบๆ ภายในงาน ได้เช่นกัน จะมีเป็นพวกของทอดต่างๆ อันนี้เป็นกุ้งทอด กับ ปลาคอต – ครีมชีส อันนี้เป็นแฮมรมควัน กับ เมล่อน ส่วนตัวนี้จะเป็น พริกหวานที่สอดไส้ด้วย Chorizo และ ชีสจากนมแพะ และในบรรดาอาหารโปรตุเกสทั้งหมด สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับงานนี้เลย ก็คือ ‘ ซุปถั่วโปรตุเกส ‘ นอกจากนี้ก็ยังมีขนมอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ทาร์ตไข่ หรือ Rice Pudding…
โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ และโรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ได้จัดการแข่งขันทักษะทางด้านอาหารและเครื่องดื่มหรือ F&B Masters ประจำปี 2559/2560 ที่โรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ในวันที่ 26 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา โดยได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ผู้ชนะประเภทบาร์เทนเดอร์ได้แก่ นาย Anuwat Nareedet, Bartender ผู้ชนะประเภทบาริสตาได้แก่ นางสาว Sumonta Ampaipun, Hostess ผู้ชนะประเภทการทำขนมได้แก่ นางสาว Satiya Thongsang, Commis ผู้ชนะประเภทการทำอาหารได้แก่ นางสาว Rakchanok Buangam, Demi chef ผู้ชนะระดับโรงแรมทุกคนจะได้รับถ้วยรางวัลที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากทีมเชฟ ใบประกาศนียบัตร บัตรรางวัลห้องพักและรับประทานอาหารของโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ และโรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ เป็นตัวแทนของโรงแรมเข้าร่วมประกวดระดับประเทศที่จะจัดขึ้นภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ที่โรงแรมมิลเลียนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ อีกทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะถูกนำมาเป็นโปรโมชันประจำห้องอาหารและบาร์ของโรงแรมเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้ลิ้มลอง ถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของพนักงานอีกด้วย การแข่งขัน F&B Masters จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้วเป็นการแข่งขันทักษะทางด้านอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมและรีสอร์ทของฮิลตันเวิลด์ไวด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย เพื่อเฟ้นหาบุคลากรที่มีศักยภาพในด้านการทำอาหาร ขนม บาริสต้า บาร์เทนเดอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับโรงแรม ระดับประเทศ และระดับเอเชีย ผู้เข้าร่วมการแข่งขันแต่ละสาขาในระดับโรงแรม จะต้องประลองฝีมือกับโจทย์การแข่งขันต่าง ๆ เพื่อชิงตำแหน่งหนึ่งเดียวในการก้าวไปสู่เวทีระดับประเทศและระดับเอเชียต่อไป ทั้งหมดก็เพื่อพัฒนาการให้บริการลูกค้าของพนักงานโรงแรมให้บริการได้อย่างดีเยี่ยมและน่าประทับใจต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 6206666 หรือ 02 6496666 ภาพบรรยากาศของการแข่งขัน และ ผลงานของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร เครื่องดื่ม และ ขนมหวาน Kin…
Panna Cotta ไส้ไหล สวย อร่อย ทำง่ายไม่ยาก สร้างสรรค์ได้ที่บ้าน ! …เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปทานอาหารอิตาเลี่ยนที่ Scalini (อ่านรีวิวต่อ)>> มา แล้วทางห้องอาหารให้ลองทำขนมสไตล์อิตาเลี่ยน วันนี้ก็เลยตั้งใจ จะมาทำขนมอิตาเลี่ยนอีกอย่าง ที่เชื่อว่าหลายๆ คน รู้จักกันดี นั่นก็คือ Panna Cotta นั่นเอง ซึ่งเจ้า พานนา คอตต้า แปลจากภาษาอิตาเลี่ยนแล้ว แปลว่า ครีมที่ถูกปรุงให้สุก ซึ่งปกติแล้ว ทั่วไปก็จะนำ ครีมไปต้ม แล้วใส่เจลาติน แล้วเทใส่ถ้วย มีเจลลี่ผลไม้ หรือ ซอสผลไม้ข้างบน แต่วันนี้ผมจะลองขอนำเสนอ พานนา คอตต้า ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป แล้วนอกจากตัวพานนา คอตต้า ก็ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่มาทาน คู่กับพานนา คอตต้า อีกด้วย มาดูสูตร และ วิธีทำ กันเลยดีกว่าครับ … Orange & Vanilla Panna Cotta Cream 250 g Sugar 40 g Vanilla ¼ pc. Orange Peel ½ pc. Gelatin (half sheet) 2 pcs. Frozen Passion fruit puree ต้ม ครีม น้ำตาล วานิลา และ เปลือกส้ม ให้เกือบเดือด จากนั้นนำพลาสติกถนอมอาหาร คลุมไว้ พักไว้ 1 ชั่วโมง ให้กลิ่นของวานิลา และ ส้ม…
พบกับอาหารอิตาเลียนในยุคที่มาเฟียอิตาเลียนเต็มอเมริกา กับบรรยากาศที่แสนสงบและจะพาคุณย้อนยุคไปอย่างสมบูรณ์แบบ สวัสดีครับ วันนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านมาชม มาชิม อาหารอิตาเลียนกลิ่นอายอเมริกา ที่มีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ทั้งหมด หลังจากการเปลี่ยนเชฟ หากใครเคยมาที่นี่อยู่แล้ว บรรยากาศก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคืออาหารนั้นเอง Scalini – ห้องอาหารอิตาเลียน แห่งโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ชั้น 2 ของโรงแรมพอขึ้นมาถึงห้องอาหาร ตัวห้องอาหารถูกตกแต่งคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ ทางโรงแรมฯ ได้เล่าถึงความเป็นมา และคอนเซปท์ของห้องอาหารนี้ว่า ห้องอาหารถูกตกแต่งให้คล้ายตู้คอนเทนเนอร์ขนไวน์ ในยุค1920 ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ประเทศอิตาลี สั่งห้ามผลิต และซื้อขาย แอลกอฮอล์ ร้านอาหารแห่งนี้จึงเสมือนว่า กำลังนั่งอยู่ในรถขนไวน์ที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ค ซึ่งจริงๆแล้ว นอกจากตัวห้องอาหารเองแล้ว ตัวโรงแรมเอง ก็ถูกตกแต่งให้อยู่ในเรื่องราวเดียวกัน โดยเล่าผ่านตัวละครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นล๊อบบี้ สระว่ายน้ำ หรือ ห้องพัก เองก็ตาม พอเดินเข้ามา ก็จะเห็นครัวเปิดตั้งอยู่ข้างหน้าร้านอาหารเลย ซึ่งเราก็จะเห็นพ่อครัวกำลังเตรียมอาหารต่างๆได้จากข้างนอกด้วย ซึ่งก็จะมีโต๊ะอาหาร อยู่รายล้อม ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งทานอาหาร พร้อมบรรยากาศสบายๆ มองวิวข้างนอกได้ พอมาถึง ทางห้องอาหารก็จะจัดเตรียม ขนมปังบนถาดไม้มาให้ พร้อมซาวซ่ามะเขือเทศ ซอสมะกอกดำ และ กระเทียม จานแรกมาเบาๆ ก่อน กับ Tuna and Salmon Tartar จานนี้ ส่วนฐานจะเป็นปลาแซลมอน และ ปลาทูน่า ซึ่งถูกหั่นเป็นลูกเต๋า นำมาจัดวางใส่ในพิมพ์ แล้ววางมะม่วงสด หั่นเต๋าไว้ข้างบนปลาทั้งสอง มีผักสลัด และ ขนมปังแห้งเสิร์ฟข้างๆ ส่วนตัวรู้สึกค่อนข้างชอบจานนี้ ตัวปลาชิ้นเล็ก ทานคู่กับ มะม่วงที่มีรสหวาน มีรสเปรี้ยวนิดหน่อยจากซอส แล้วได้เนื้อสัมผัสกรอบ จากตัวขนมปัง รู้สึกว่านัวจริงๆ สำหรับจานนี้ จานต่อมา Sea Scallop Heitloom Tomatoes – สำหรับคนที่ชอบทานมะเขือเทศ จานนี้เป็นจานที่ไม่ควรพลาดเลยครับ แถมได้ทานคู่กับบูราต้าชีส ด้วย เป็นอะไรที่ฟินสุดยอด ด้วยความเปรี้ยวอมหวานของ มะเขือเทศนำเข้า ผสมผสานกับ รสชาติเข้มขัน เค็มนิดๆ…
มากันอีก หนึ่งโรงแรมที่ปีนี้ ก็ได้ทำขนมไหว้พระจันทร์ ออกมาให้จับจองกันหลากหลายไส้ นั่นก็คือ ห้องอาหารไบยุน แห่งโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ นั่นเอง ปีนี้โรงแรมฯ ทำออกมาหลายไส้เลย ไม่ว่าจะไส้โหงวยิ้ง ไส้เกาลัด ไส้พุทราจีน ไส้ลูกบัว งาดำ และถั่วแดง และปีนี้ มาในกล่องที่แสนสวย รูปทรง เริ่มจาก ไส้ถั่วแดง ก่อนเลยแล้วกันนะครับ ตัวไส้ ถือว่า โอเคเลยครับ รสชาติกำลังดี คล้ายๆไส้ถั่วแดงในขนมญี่ปุ่น ต่อมา เป็น ไส้โหงวยิ้ง ดีกว่า ปกติเป็นคนไม่ค่อยทานไส้นี้ แต่ของที่นี่ รู้สึกว่า ถ้าเป็นคนที่ชอบถั่ว บอกเลยว่าต้องถูกใจแน่ๆ เพราะเค้าใส่ถั่วมาเป็นเม็ดๆ เลย และ อัดแน่นด้วยธัญพืชต่างๆ ตัวไส้ไม่แห้งเกินไป พอเคี้ยวจะพอมีความรู้สึกหนึบๆของตัวไส้ และได้ความกรุบๆ ของถั่ว และ ธัญพืชข้างใน และมีกลิ่นหอมของมะกรูดอ่อนๆ อีกด้วย สำหรับ ไส้ลูกบัว และ ไส้เกาลัค ตัวไส้มีความหวานกำลังดี แต่จริงๆสำหรับสองไส้นี้ ผมมีความรู้สึกว่าไม่ได้พิเศษอะไรมาก มาที่ไส้ต่อไปเลยดีกว่า ไส้พุทราจีน ตัวไส้มีความหวานกำลังดีเช่นเคย แต่รู้สึกว่า สามารถทำให้ รสของพุทรา เข้มข้นกว่านี้ได้อีก ไส้งาดำ ตัวไส้หวานกำลังดี ไม่มากไม่น้อย มีกลิ่นหอมของ งา อ่อนๆ โดยรวม ไส้มีความละเอียดดี รสชาติหวานกำลังดี บางไส้ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเด่นจากกัน คือ รู้สึกคล้ายๆกัน แต่ไส้ที่รู้สึกชอบ คือ ไส้โหงวยิ้ง เพราะรู้สึกว่าทานไม่ยากอย่างที่คิด และตัวไส้มีความนัวในตัวของมัน และ ส่วนตัวเปลือกแป้งข้างนอก ทำได้ไม่หนาเกินไป ไม่บางเกินไป แต่รู้สึกว่า มีกลิ่นเกรียมอ่อนๆ รายละเอียด วางจำหน่ายที่ กู๊ดดี้ ห้องอาหารไบยุน และห้องอาหารร่มไทรระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 15 กันยายน ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม -15…