Author: athiwat tripipitsiriwat

Chef : Paul : 12 2022 Story : Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A จิบน้ำชายามบ่าย ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราโอ่โถงของล็อบบี้ ประดับประดาด้วยการตกแต่งพิเศษเฉพาะช่วงเทศการคริสมาส ปีใหม่ Lobby ที่ได้รับรางวัล Best Hotel Lobby Interior of Thailand and Best International Hotel Lobby Interior จาก International Property Awards ล็อบบี้ได้รับการออกแบบให้สูงโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านประตูทางเข้าทรงโค้งที่มองออกไปเห็นต้นคริสมาสขนาดมหึมา เชื่อมต่อความเป็นธรรมชาติใจกลางเมืองสู่โถ่งล็อบบี้ของโรงแรมฯ ได้อย่างกลมกลืน Athiwat T. นับเป็นการจิบน้ำชาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Sustainability Concept ที่ทางโรงแรมมุ่งมั่นที่จะช่วยอนุรักษ์โลกและรักษาสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆกับบรรยากาศการเฉลิมฉลอง พื้นที่ Lobby ที่แต่งแต้มไปด้วยความสดใสร่าเริ่งจาก ของตกแต่งมากมาย อาทิ โต๊ะทรงกล่องของขวัญ ออนาเม้นประดัยบประดาแขวนอยู่ทั่วทุกจุด กล่องของขวัญผูกโบว์ ริบบ้านมากมายให้เจริญหูเจริญตาสวยงาม ไฟต่างๆที่ประดับแบบจัดเต็มสวยสะพรั่งระยิบระยับไปทุกๆมุม และต้นคริสมาสขนาดมหึมาที่อยู่บริเวณสวนด้านหลังโรงแรม ที่แขกทุกท่านสามารถมองผ่านกระจกใสใหญ่โตจากพื้นที่ Lobby โดยมีโครงสร้างอาคารที่โค้งเว้าใหญ่มหึมาสวยงามดั่งกรอบรูป อีกทั้งยังสอดรับกับการที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี้กรุงเทพฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED และสะท้อนถึงสัญลักษณ์ของโรงแรม บรรยากาศ การจิบน้ำชา ภายใต้โถง ล็อบบี้โรงแรมอันสง่างามนี้ ชุดน้ำชายามบ่าย The Verdant Festive Afternoon Tea ยังคงความโดดเด่นสวยงาม อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการนำวัสดุเหลือใช้อย่าง ใยมะพร้าวและแกลบข้าว ทำมาแปรรูปสร้างเป็นตัวฐานชุดน้ำชาที่คล้ายเนินเขา ซึ่งใช้ฐานเดิมของชุดปกติ และเพิ่มเติมคือตัวต้นคริสมาสซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุเดียวกัน มาสร้างสรรค์เป็นชุดชายามบ่ายดีไซน์เก๋ เพิ่มความตระการตาด้วยดรายไอซ์บริเวณฐานของชุดชา ลิ้มลองรสชาติอันละเมียดของเมนูชุดชายามบ่าย เรียกว่าเสริมบรรยากาศการเฉลิมฉลอง คริสมาส และ ปีใหม่ เทศกาลแห่งความสุขด้วยความสดชื่นและความสดใสภายใต้ความหรูหรามีระดับ ว่าแล้วเราลองไปดูกันเลยครับว่าภายใต้ชุดน้ำชาที่แสนอลังการนี้มีอะไรให้รับประทานบ้าง kempin festive afternoontea Festive Afternoon Tea Orange and…

Read More

Keller Bangkok ร้านที่ให้บริการอาหารยุโรปร่วมสมัยที่มีรากฐานมาจากประเพณีวัฒนธรรมการกินดื่มอันยาวนานและซํบซ้อน แต่รสชาติและสัมผัสที่กินง่านเข้าใจง่ายเบาสบายและน่าตื่นตาตื่นใจ “สำหรับผมนั้น การทำอาหารไม่ใช่การแข่งขัน ผมทำอาหารเพื่อที่ฉันจะได้สร้างความสุขให้กับผู้คนและเชื่อมต่อกับพวกเขา ท้ายที่สุดแล้ว ผมแค่อยากถูกมองว่าเป็นคนทำอาหารเก่ง”- Mirco Keller – เชฟได้เล่าว่าตั้งแต่เชฟมาถึงประเทศไทย ประสบการณ์ของเชฟตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาที่นี่ทำให้เชฟมีโอกาสตั้งเป้าหมายใหม่ ด้วยความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เชฟจึงมีความสมดุล มีความเคารพ และมีความสุขในชีวิตมากขึ้น ในการดำน้ำหลายครั้งของเชฟ เชฟได้พบกับเต่าแสนสวยตัวหนึ่ง ว่ายน้ำอย่างอิสระในขณะที่เปล่งรัศมีแห่งความเงียบสงบ ในตอนนั้นเอง เชฟตระหนักว่าตอนนี้เชฟเข้าใจจิตวิญญาณของสัตว์เลื้อยคลานที่น่าหลงใหลอย่าเต่า ซึ่งเต่านั้นสงบนิ่งแต่มีพลังนี้อย่างแท้จริง เชฟ Mirco Keller เริ่มต้นการเดินทางในด้านการทำอาหารที่โรงแรม Ritz Cariton ในกรุงเบอร์ลิน และไต่เต้าขึ้นไปพร้อมกับเชฟที่มีชื่อเสียงในสถานที่รับประทานอาหารระดับหรูภายใต้ชื่อ Tim Raue และ Markus Semler ในปี พ.ศ. 2554 ชะตากรรมของเขาได้นำเขาไปยังประเทศไทยที่ซึ่งปัจจุบันเขาเรียกว่าบ้าน หลังจากทำงาน 8 ปีในฐานะเชฟผู้บริหาร ที่Water Library จามจุรี ปัจจุบันเป็นเชฟและพาร์ทเนอร์ของเคลเลอร์ แบงค็อก ผ่านประสบการณ์ที่สะสมมาของเขา ตอนนี้เขานำเสนอ นวัตกรรมอาหารที่คลาสสิกร่วมสมัยในสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยอย่างน่าทึ่ง ร้านนี้นั้นเปรียบดั่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในสวนพลูซอย 2 นำโดยเชฟ Mirco Keller ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่นว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการอาหารรสเลิศของประเทศไทย Keller นำเสนอบรรยากาศที่สบายๆและเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ที่สร้างสรรค์สำหรับการรับประทานอาหารส่วนตัว ธุรกิจ หรือเพื่อการพักผ่อน เชฟ Mirco Keller หุ้นส่วนเชฟของที่นี่ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ดึงดูดเรามาที่ร้านนี้ เชฟ Mirco มีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่รู้จักในเรื่องสูตรอาหารที่พัฒนาตลอดเวลาของเขา ใช้โทนสีบลัชออนอ่อนๆ ท็อปโต๊ะไม้ สีทองแชมเปญ โคมไฟห้อยระย้าแบบยุคกลางศตวรรษ และที่นั่งโซฟาสีชมพูอ่อน คุณลักษณะการออกแบบสะท้อนถึงหลักการของความโปร่งใสและการเปิดกว้างของ Keller กระตุ้นให้แขกมีส่วนร่วมกับทุกแง่มุมของประสบการณ์ Keller The Lounge เมื่อย่างก้าวเข้ามาในอาคารเราจะพบกับพื้นที่เล้าจ์ พื้นที่ตรงนี้เปรียมเสมือนบทนำของหนังสือ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับค่ำคืนที่ Keller เลานจ์ได้รับการตกแต่งในสไตล์สมัยใหม่ในช่วงกลางศตวรรษที่20 การออกแบบที่มีเสน่ห์ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของเมนูเครื่องดื่มที่ให้ความผ่อนคลายและสง่างามของเคลเลอร์ แขกผู้มากินดื่มสามารถนั่งลง ผ่อนคลายกับเครื่องดื่ม ภายใต้โคมไฟแสนสวยที่ออกแบบสั่งผลิตมาเป็นพิเศษ ใช้เวลาของคุณกับเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่ห้องอาหาร The Wine Room ด้วยความร่วมมือกับ Cloud Wine…

Read More

Chef : Andre Place : Seoul, South Korea Date : 11 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Mariposa มีความหมายว่าผีเสื้อ ห้องอาหารแห่งนี้มีการตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนถึงรูปร่างที่สง่างามของผีเสื้อ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 29 บนสุดของโรงแรม Fairmont Ambassador Seoul หนึ่งในแบรนด์ Ultra Luxury ของเครื่อง Accor มาริโพซ่าเป็นร้านอาหารยุโรปสมัยใหม่แห่งนี้ให้บริการอาหารสไตล์ยุโรปที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่ดีที่สุด เมนูที่หลากหลายมีตั้งแต่เมนูชุดอาหารรสเลิศไปจนถึงงานเฉลิมฉลองที่ผลิตโดยช่างฝีมือตามฤดูกาล เสริมด้วยรายการไวน์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและสุราระดับพรีเมียมที่ได้รับการคัดสรร ห้องอาหารแบ่งออกเป็นส่วนหลักที่พื้นที่นี้จะอยู่ตรงกล้างห้องอาหาร และขนาบด้วยเฉลียงบนชั้นดาดฟ้ามองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลทั่วเมือง สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสร้างแรงบันดาลใจทุกครั้งที่มาเยือน ทัศนียภาพมองเห็นไปทั่วทั้งกรุงโซล โดยมีแม่น้ำฮันเป็นเส้นนำสายตาไปยังทิวตึกระฟ้าและภูเขานัมซานที่อยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของแม่น้ำฮันนั้นเอง อาหารค่ำเริ่มเวลา 17.30–21.30 น. (สอบถามและจอง: +82 2 3395 6300) ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารเราได้สัมภาษณ์เชฟเพื่อให้เข้าถึงที่มาของหน้าตา รสชาติ และการนำเสนออาหารกัน ก่อนหน้านี้คุณประจำการอยู่ที่ไหน ? ฉันเคยทำงานในโรงแรมมาหลายประเทศ ฉันเคยใช้เวลาอยู่ในครัวของ Hyatt Regency ในปารีส, Tasting Room ในมาเก๊า, Conrad Singapore และ JW Marriott ในประเทศจีน รวมถึง Conrad Seoul, Grant Hyatt Seoul และ Four Seasons Seoul ในเกาหลี ตอนนี้ฉันเป็น Executive Sous Chef ที่ Mariposa ที่ Fairmont Ambassador SeoulChef Andre คุณถนัดทำอาหารประเภทไหน? ยากที่จะบอกชื่ออาหารประเภทเดียวที่ฉันทำอาหารเก่ง ฉันมักจะทำให้ดีที่สุดกับอาหารทุกจานที่อยู่ในมือฉัน ฉันมีความมั่นใจในการทำอาหารฝรั่งเศส และฉันก็ทำงานหนักอยู่เสมอเพื่อให้การทำอาหารของฉันดีขึ้นทุกวันChef Andre อะไรคือแรงบันดาลใจสำหรับแนวคิดเมนูของคุณ?…

Read More

Chef : Kim Jin-rae Place : Seoul, South Korea Date : 11 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Brûlée Fire Dining คือชื่อของร้านอาหาร style casual fire dining ร้านใหม่มาแรงประจำกรุงโซล ซึ่งมีความกลิ่นอายอันความโดดเด่น วันนี้ kinandlesiure.com จะขอชวนทุกท่านไปลองกันครับ ร้าน Brûlée แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Hannam ในกรุง Seoul ซึ่งไม่ใช่ย่านที่โด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนเกาหลีนั้นถือว่าเป็นย่านที่เงียบสงบ และ มีงานศิลปะมากมาย ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายในโซล ถึงแม้จะต้องใช้บัส หรือ รถยนต์ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่าไหร่สำหรับการมาที่แห่งนี้ ตัวร้าน Brûlée เดิมเป็นร้านใหม่ที่ปรับปรุงจากพื้นที่เดิมที่เคยเป็นร้านเนื้อย่างมาก่อน ทำให้รูปใน google map review จะไม่ตรงกับภาพในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้ app NAVER search ชื่อร้านก็จะสะดวกกว่า โดย location ที่สังเกตได้ว่าถูกตำแหน่งให้ดูว่าเป็นร้านที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้าน bakery ชื่อ Tarine Bakery Seoul สาขา Hannam โดยเมื่อมาถึงหน้าร้านจะเป็นบันไดให้ขึ้นชั้นสอง อยู่ในซอยไม่ลึกนัก โดนตอนนี้ร้านจะหยุดวันจันทร์และอังคาร ให้บริการวันพุธ ถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 5 PM – 11 PM (Last order 9 PM) ส่วนวันอาทิตย์จะมีมื้อกลางวันเป็นพิเศษในช่วงเวลา 12 PM – 3 PM การตกแต่งของร้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์นที่เน้นให้เห็น live kitchen…

Read More

Chef : Kim Jin-rae Place : Seoul, South Korea Date : 11 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A “seoul dining อาหารและวิถีแห่งกรุงโซลผ่านการนำเสนอโดยเชฟคิม” Seoul Dining ร้านอาหารที่ให้บริการ ‘อาหารสไตล์โซล’ ด้วยรูปแบบการปรุงและนำเสนอแบบฝรั่งเศส และอิตาลี ที่นี่ตีความอาหารและวัตถุดิบตามฤดูกาลของโซลในความหมายของปัจจุบัน และถ่ายทอด “Taste of Seoul” แบบใหม่และง่ายแก่การหินการรับรู้ สำหรับเชฟ Kim Jin-rae ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในเกาหลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป เชฟเคยเป็นหัวหน้าเชฟใน Congdu, Second Kitchen และ Maison de la Categorieในฐานะเชฟเจ้าของร้าน Seoul Dining เขาปรารถนาที่จะตีความรสชาติของโซลใหม่ ในความหมายที่ทันสมัยและแสดงออกในรูปแบบต่างๆ ตัวร้านตกแต่งร้านสวยงาม สไตล์ industrial คุมโทน ทั้งอาหารและรสชาติ ตั้งอยู่บริเวณเนินลาด สามารถมองออกไปชมทัศนียภาพทิวต้นแป๊ะก๊วยที่ปลูกเรียงเป็นแนวยาว มีความสวยงามเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดู เช่นสีเหลืองทองอันโดดเด่นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาวที่ปกคลุมขาวโพลนด้วยหิมะขาวบริสุทธิ์ตัดกับลำต้นสีเข้มขลับ หรือสีเขียวอ่อนช่วงใบไม้ผลิ และเขียวเข้มในฤดูร้อน สำหรับการเดินทาง ผู้ที่ใช้รถไฟใต้ดินสามารถขึ้นจากสถานี Donggkuk University Exit 1 เดินต่อ 200 m อาหารกลางวันประกอบด้วย 5 คอร์สเมนู ทำให้ง่ายต่อการเพลิดเพลินกับอาหารคอร์สต่างๆ และอาหารค่ำเป็นเมนูที่สามารถสัมผัสกับ 9 จานอย่างช้าๆและลึกซึ้ง ซึ่งในครั้งนี้เรามีเวลาค่อนข้างจำกัด เราจึงเลือกเป็นเมนูอาหารเที่ยง อีกข้อแนะนำคือหากมีแพลนทราบล่วงหน้าว่าขะไปลิ้มลองควรสำรองที่นั่ง เพราะอย่างช่วงที่เราไปแม้เป็นวันธรรมดาช่วงกลางวันแต่ก็เต็มทุกโต๊ะ เรามาเข้าสู่ Lunch set menu กันเลยครับ Amuse bouche cheese ball+fish tart…

Read More

Place : Seoul, South Korea Date : 11 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A HOTEL PEYTO SAMSEONG เป็นโรงแรมขนาด 163 ห้อง ซึ่งทางโรงแรมนั้นมุ่งมั่นสร้างสรรค์เอกลักษณ์และสไตล์ทุกพื้นที่ในโรงแรม ในขณะที่ยังคงใช้งานได้จริงและราคาสมเหตุสมผลแนวคิดหลักของโรงแรมคือการมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำแก่แขกผู้เข้าพักที่มีอุปการะคุณด้วยการบริการลูกค้าที่โดดเด่นข ตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ติดกับ CALT World Trade Center และ Coex Convention Center ดังนั้น Hotel Peyto Samseong เป็นโรงแรมที่เหมาะที่สุดสำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจระหว่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง และผู้มีธุระโดยเฉพาะในย่านกังนัม ชื่อโรงแรม PEYTO SAMSEONG มาจากทะเลสาบ Peyto ในเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา โลโก้ถูกสร้างขึ้นตามแนวคิดของแสงที่สะท้อนจากทะเลสาบ Peyto ที่สวยงาม ในฐานะโรงแรมสีเขียวที่ได้รับการรับรอง ทางโรงแรมมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและปกป้องโลก ด้วยการใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ทางโรงแรมพยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด HOTEL PEYTO SAMSEONG จะเป็นที่พักของคุณท่ามกลางชีวิตในเมืองที่วุ่นวายในกรุงโซล การเดินทางที่แสนสะดวก โดยรถไฟใต้ดินเดิน 5 นาทีจากสถานี Samseong บนรถไฟใต้ดินสาย 2 (ทางออก #5) ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน →โรงแรมเปย์โตโดยรถประจำทางขึ้นรถลีมูซีนสนามบิน #6103https://www.calt.co.kr/lang/th/contents/limousine3.php?b_n=6103 สนามบินกิมโป →โรงแรมเปย์โตโดยรถประจำทางทางออก 6 (เที่ยวบินระหว่างประเทศ) หรือ 4 (เที่ยวบินในประเทศ) → ทางออก 100 ม. จากสถานี Samseong (ทางออก #5) Peyto Hotel Samseong Executive Suite โดยรถยนต์Gonghang-daero(2.8km) → Gangseo-ro(1.4km) → Olympic-daero(25km) → เลี้ยวขวาไปยัง ‘COEX,…

Read More

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขขนขบวนพาเหรดอาหารเลิศรสและความบันเทิงมากมายมาให้เลือกสรร อิ่มหนำกับบุฟเฟต์อาหารนานาชาติปาร์ตี้เคาท์ดาวน์บนชั้นดาดฟ้าสุดอลังการ รวมถึงล่องเรือรับประทานอาหารสุดหรูกลางแม่น้ำเจ้าพระยาสังสรรค์สุดหรรษากับคนพิเศษ เริ่มต้นวางแผนการฉลองปีใหม่สุดวิเศษได้แล้ววันนี้วันคริสต์มาสอีฟและวันคริสต์มาส (24-25 ธันวาคม 2565) ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ฉลองเทศกาลแห่งความสุข ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติกยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานครดื่มด่ำไปกับอาหารรสเลิศที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ ในแบบฉบับของห้องอาหารเวอร์ทิโก้การันตีความอร่อยด้วยรางวัลต่างๆมากมายชุดอาหารค่ำ 5 คอร์ส ราคาสุทธิ 4,880 บาท ต่อท่าน พร้อมรับแชมเปญ 1 แก้วห้องอาหารร่มไทร เนรมิตรช่วงเวลาสุดพิเศษกับครอบครัวหรือคนสนิท ด้วยบุฟเฟ่ต์นานาชาติ อิ่มเอมกับอาหารนานาชนิดจากพ่อครัวมากฝีมือที่ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน รวมถึงเมนูพิเศษที่มีเฉพาะเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้นเพื่อให้คุณและครอบครัวเฉลิมฉลองวันแห่งความสุขอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาท่ามกลางบรรยากาศสวนและน้ำตกร่มรื่นบุฟเฟต์มื้อค่ำ ในวันคริสต์มาส อีฟ (24 ธันวาคม 2565) และ บุฟเฟต์บรันช์ ในวันคริสต์มาส (25 ธันวาคม 2565)ราคาสุทธิ 2,880 บาท ต่อท่าน รวมสปาร์คกิ้งไวน์ไม่อั้น เรือแซฟฟรอนครูซ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเดินทางไปกับเรือแซฟฟรอนครูซ ล่องไปบนแม่น้ำเจ้าพระยาท่ามกลางหมู่ดาวรับประทานอาหารไทยต้นตำรับ 4 คอร์ส เป็นประสบการณ์อันตราตรึงมิรู้ลืมชุดอาหารค่ำ 4 คอร์ส พร้อมสปาร์คกิ้งไวน์ 1 แก้ว ราคา 2,550 บาทสุทธิ ต่อท่านวันสิ้นปี (31 ธันวาคม 2565) ห้องอาหารเวอร์ทิโก้สังสรรค์อย่างชื่นมื่นเกินบรรยายกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีสุดวิเศษพบบรรยากาศหรูหราตระการตาสนุกสนานกับการแสดงสดพร้อมรับประทานอาหารมื้อพิเศษที่รังสรรค์โดยเชฟมากฝีมือของโรงแรมฯและต้อนรับปีใหม่ด้วยวิวท้องฟ้าอันสุกสกาวของกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศาชุดอาหารค่ำ 7 คอร์ส พร้อมแชมเปญ 1 แก้ว ราคา 18,880 บาทสุทธิ ต่อท่าน*สงวนสิทธิ์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี*ให้บริการตั้งแต่ 20.00 – 02.00 น.มูนบาร์เฉลิมฉลองค่ำคืนแห่งการนับถอยหลังที่มูนบาร์บนตึกสูงระฟ้าชั้น 61 ของโรงแรมฯ ท่ามกลางบรรยากาศอันรื่นเริงดื่มด่ำกับแชมเปญแบบไม่จำกัดและเมนูคานาเป้ที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินตลอดทั้งคืนแพกเกจเครื่องดื่มแบบไม่อั้น พร้อมคานาเป้ ราคา 88,880 บาทสุทธิ สำหรับ 10 ท่าน ต่อโต๊ะ*ให้บริการตั้งแต่ 22.00 น. – 02.00 น.ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ทู ยกระดับการเฉลิมฉลองของคุณในปีนี้ด้วยที่สุดของการเฉลิมฉลองเริ่มต้นค่ำคืนแห่งการสังสรรค์ด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษแล้วเพลิดเพลินกับมื้ออาหารค่ำ 5 คอร์สปิดท้ายความสนุกด้วยการนับถอยหลังสู่การเริ่มต้นปีใหม่ ตื่นตาตื่นใจกับ วิวกรุงเทพมุมสูงยามค่ำคืน ชุดอาหารค่ำ 5…

Read More

Chef Peter Lee : Date : Oct 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A พบกับติ่มซำทำใหม่นึ่งสดจากวัตถุดิบพรีเมียม ตามสูตรต้นตำรับแท้ๆ โดย เชฟ เลสลี่ ดูว์ หัวหน้าพ่อครัวชาวจีนแห่งห้องอาหารจีนมาน โฮ ตั้งใจพิถีพิถันดูแลใส่ใจในทุกกรรมวิธี ผสมผสานรสชาติที่คงความอร่อยในแบบต้นตำรับกวางตุ้งดั้งเดิมโดดเด่นด้วยเทคนิคการปรุงเพื่อคงความสดใหม่ของอาหารมากที่สุดภายใต้การนำเสนอในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยน่ารับประทาน เชฟลี่เรียกได้ว่าเป็นบุคคลต้นแบบ ในทุกด้านการปรุงของอาหารจีนแนวใหม่ การทำอาหารกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเชฟลี่ ในช่วงเวลาว่างของเขาและระหว่างการท่องเที่ยวในวันหยุดเขาจะเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ เพื่อลองชิมอาหารท้องถิ่น และนั่นทำให้เขาได้ค้นพบส่วนผสมและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เขาสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆได้ ความหลงใหลในชีวิตและการทำงานของเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ แรงบันดาลใจในการทำอาหารของเขาออกมาน่าตื่นตะลึง เราเชื่อมั่นได้เลยว่าในการเดินทางที่เปิดตาและเพดานปากของเขา สำหรับ 20 ปีที่ผ่านมาทำให้ได้เดินทางไปยัง 14 ประเทศที่ต่างกันนี่ จะเป็นแรงบันดาลใจในมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในการส่งมอบรสชาติจีนพร้อมกับแรงบันดาลใจ ห้องอาหาร Man Ho นั้นมีบรรยากาศที่เคร่งขรึม ดูเป็นผู้ใหญ่ที่เหมือนผ่านชีวิตมาอย่างยาวนานแต่ดูอบอุ่นสง่างามประดุจผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมให้บริการและสร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน ห้องอาหาร Man Ho นั้นมีทั้งพื้นที่ห้องส่วนตัวและส่วนนั่งกินทั่วไป รองรับทุกแนวความต้องการแก่แขกได้ทุกรูปแบบและกิจกรรม ไม่ว่าจะมากินข้าวทั่วไป สังสรรค์ หรือพูดคุยส่วนตัว การตกแต่งนั้นเป็นการตกแต่งแบบ Chinese Contemporary องอาหาร Man Ho กับ พื้นที่ห้องส่วนตัว เมนูแนะนำในบุฟเฟ่ต์ เมูนู BBQ หมูแดงเลิศรส หนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด ด้วยความนุ่ม มัน เนื้อและไขมันที่แทรกตัวกันอย่างพอดิบพอดี รสดีลงตัวมาก ทั้งความหวาน ความมัน ความเค็ม อร่อยลงตัว หมูกรอบ สุดเทพ จานนี้นับว่าเป็นจานเด็ดของที่นี่อีกหนึ่งจาน ที่เชฟได้คัดสรรเนื้อหมูสามชั้นพิเศษจากส่วนท้องที่มีอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นนำมาอบจนหนังกรอบ และสุกทั่วถึงทุกชั้น ชั้นไขมันไม่หนาจนเกินไป ตัวเนื้อและหนังกรอบไม่อมน้ำมัน ไม่ต้องปรุงรสใดๆเพิ่มเติมก็อร่อย ทานคู่กับมัสตาร์ดของทางร้านหรือซีอิ๊วหวานตามใจชอบ Steamed “Chung Fun” with crispy shrimpก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ ต่อไปเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบครับ อันนี้ชูจุดเด่นเรื่องฝีมือชองเชฟในการทำแป้งได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเมนูที่ใช้เทคนิคการทำแป้งเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่หนานุ่มแล้ว ยังมีการใส่สีเขียว ตัดกับสีเหลืองของไส้กุ้งทอดห่อออกมาอย่างสวยงามครับ ส่วนรสชาติ…

Read More

Chef : เชฟเอ๋ : 10 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Anantara Siam – House of Eden สวัสดีครับ วันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปที่โรงแรมอนันตรา สยามกรุงเทพ ฯ กับ afternoon ชุดใหม่ เปิดตัว 26 ต.ค. นี้  เปิดสัมผัสประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายชุดใหม่ HOUSE OF EDEN โดยการทำงานร่วมกันของเชฟอนุพงษ์ นวลฉวี  หัวหน้าพ่อครัวเพสทรีของโรงแรมฯ และ อรรถกฤษณ์ วรรณสอน หรือที่รู้จักกันในนาม Krishna the Fifth ศิลปินที่รังสรรค์ผลงานจิตรกรรมด้วยจินตนาการจากเรื่องเล่าของสวนเอเดนกับผลไม้ต้องห้าม เชฟอนุพงษ์ นวลฉวี หัวหน้าพ่อครัวเพสทรีของโรงแรมฯ ได้รังสรรค์เมนูของหวานโดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลไม้ต้องห้ามแห่งสวนเอเดน คือแอปเปิ้ล โดยเมนูซิกเนเจอร์ เป็น Red Delicious Apple ชูครีมสอดไส้แอปเปิ้ล เคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลตและมะพร้าว ประดิษฐ์เป็นรูปผลแอปเปิ้ลสีแดงสดใส สำหรับพื้นที่ตรงกลางของ Lobby ทิศใต้ ซึ่งเป็นบริเวณสำหรับแขกผู้ทรงเกียรติยิ่งที่มาร่วมกินดื่มชุดชาแสนมหัศจรรย์เลิศรส และรื่นรมณ์กับเสียงเพลงนั้น จะมีนิทรรศการหมุนเวียนที่จัดแสดงเฉพาะช่วงที่ให้บริการชุดน้ำชา The House of Eden นี้แล้ว นั้นก็คือภาพวาดของ อรรถกฤษณ์ วรรณสอน ศิลปินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการรับรู้ เพื่อสื่อสารเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สัตว์ และพระเจ้า โดยถ่ายทอดเรื่องราวของสวนเอเดน สู่ภาพวาดสีน้ำผสมผสานสีอะคริลิค โดยการจัดแต่งนิทรรศการนี้เพื่อให้เชื่อมโยงกับรูปที่จัดแสดงและชุดน้ำชากับขนมนั้นจะประดับประดาไปด้วยมอสสีเขียวที่ให้กลิ่นอายของสวนสวรรค์ และการจัดดอกไม่สดสุดแสนงดงาม ตระกาลตา คาดซาบลังก้า ไปทั่ว lobby ของโรงแรม ชุดเครื่องจานใหม่ที่สะท้อนเอาลวดลายบนเพดานของ lobby ที่รังสรรค์จากศิลปินแห่งชาติ โดยชุดน้ำชายามบ่ายหรือ afternoon tea ครั้งนี้มาใน them garden of eden ที่ได้ตกแต่งห้อง lobby…

Read More

Chef : Jeff : 10 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สำหรับคนไทยเราตอนนี้เมื่อพูดถึงโอมากาเสะ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยแนวคิดของมื้ออาหารที่น่าตื่นเต้นและแสนพิเศษจากแนวคิดที่มาจากการตามใจให้เชฟปรุงอาหารให้เราโดยอาจไม่รู้เมนูมาก่อนและไม่ได้เลือกเมนู อาหารแต่ละเมนูล้วนมาจากสุดยอดวัตถุดิบที่ดีที่สุดตามฤดูกาลที่เชฟจะหามาให้เราได้ Kintsugi @ The Athenee Hotel, A Luxury collection Bangkok แห่งนี้ โอมากาเสะที่นี่มีความแตกต่างจากโอมากาเสะหลายๆที่ แต่ละเมนูล้วนผ่านการสร้างสรรค์การปรุงผ่านปรัชญาการทำอาหารดั้งเดิมที่นำมาตีความใหม่ให้เพิ่มลูกเล่นและความสนุกสนาน และการนำเสนอที่แปลกออกไปจากโอมากาเสะเดิมๆที่จะเสิร์ฟนิกิริเป็นหลัก สำหรับเซตนี้จะเป็น โอมากะเสะประจำฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลมีความความสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งสัมผัสและรสชาติ เชฟเจฟ โอคาดะ แรมซีย์ (Jeff Ramsey) ผู้มีชื่อเสียงจึงได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม รังสรรค์เมนูใหม่ ที่มีรสชาติซับซ้อนแต่กลมกล่อมและดึงดูดที่สุด ที่ห้องอาหารคินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ เมนูประจำฤดูใบไม้ร่วง มีให้คุณเลือก 2 เมนูสำหรับมื้ออาหารกลางวันและมื้อเย็น เริ่มแล้ววันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 โดยสนนราคาเซ็ต Ito 8-คอร์สราคา 4,300 บาทต่อท่าน และเซ็ต Kin 10-คอร์สราคา 6,300 บาทต่อท่าน เชฟแรมซีย์ได้รับแรงบันดาลใจจากความชื่นชอบในรสชาติและสัมผัสที่มีความลึกลับของเห็ด เขาได้เลือกเห็ดหกชนิดที่แตกต่างกันซึ่งหาได้จากป่าในญี่ปุ่นและยุโรป อาทิ Dobin mushi (จากเมนู Kin) เป็นซุปรสนุ่มปรุงอย่างประณีตโดยเห็ดเป็นส่วนผสมหลัก ตั้งแต่ matsutake จากญี่ปุ่น porcini จากอิตาลี ไปจนถึงเห็ด chanterelle และ black trumpet Kintsugi Shokuzenshu Aperitif Temple Sake Home Brew ‘Doburoku’ ปัจจุบัน มีโรงกลั่นเหล้าไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงผลิตเครื่องดื่มที่เรียกว่า “โดบุโรกุ” เทศกาลนี้จะแจกเหล้าโดบุโรกุให้ผู้ร่วมงานพร้อมขอพรให้พืชผลอุดมสมบูรณ์และอายุยืนยาว เหล้า “โดบุโรกุ”…

Read More