Author: athiwat tripipitsiriwat

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ The Athenee Hotel A Luxury Collection Bangkok ห้องอาหาร Rain tree cafe ได้มีงานเลี้ยงเปิดตัว โดย  บริษัท   บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกเคทีซี เมื่อชำระค่าบัตรสมาชิกรายปีโรงแรม ดิ แอทธินี คลับ “The Athenee Club” ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าทุกประเภท สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 ดังนี้  1 ) ส่วนลดค่าสมาชิกฯ ทันที 700 บาท (บัตรสมาชิกฯ ราคา 8,000 บาท และ 12,000 บาท) 2 ) Hotel Credit มูลค่า 1,000 บาท​ 3 ) ส่วนลดเพิ่มอีก 5% จากสิทธิ์ส่วนลดสมาชิกฯที่ 8 ห้องอาหารของโรงแรม ส่วนลดสูงสุดรวม 55% เมื่อชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า (แสดงบัตรสมาชิก ดิ แอทธินี คลับ คู่กับบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า เพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้ง) สำหรับ 8 ห้องอาหารที่เข้าร่วมรายการ ประกอบด้วย เรนทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) / ดิ อัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) / เดอะ ซิลค์โร้ด (The Silk Road) / คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ (Kintsugi Bangkok by Jeff…

Read More

Chef :  Paul : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A มาจิบน้ำชายามบ่ายต้อนรับฤดูร้อน The Verdant Afternoon Tea – New Collection ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราโอ่โถงของล็อบบี้ ที่ได้รับรางวัล Best Hotel Lobby Interior of Thailand and Best International Hotel Lobby Interior จาก International Property Awards ชุดน้ำชายามบ่ายต้อนรับฤดูร้อน The Verdant Afternoon Tea – New Collection ได้รับแรงบันดาลใจจาก  Sustainability Concept  ที่ทางโรงแรมมุ่งมั่นที่จะช่วยอนุรักษ์โลกและรักษาด้วยการนำวัสดุเหลือใช้อย่าง  ใยมะพร้าวและแกลบข้าว มาสร้างสรรค์เป็นชุดชายามบ่ายดีไซน์เก๋ ประดับด้วยต้นไม้ขนาดพอเหมาะที่ได้มาจากรากของต้นสารภี ซึ่งถือเป็นไม้มงคลของไทยและเพิ่มความตระการตาด้วยดรายไอซ์บริเวณฐานของชุดชา ลิ้มลองรสชาติอันละเมียดของเมนูชุดชายามบ่ายไม่ว่าจะเป็น ชุด ClassisAfternoon Teaสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบหรูอร่อยในสไตล์ต้นตำรับ หรือจะเป็นชุดGuilt Free Afternoon Tea สำหรับผู้ที่ห่วงใยสุขภาพ ทุกชุดเสิร์ฟคู่กับชาระดับพรีเมี่ยมหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกตามความชอบ รวมทั้งชาสมุนไพรออร์แกนิก ชงโดยทีมาสเตอร์ หรือพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านชาของโรงแรมฯ ที่จัดเตรียมมาเสิร์ฟให้คุณได้ผ่อนคลาย พบกับชุดน้ำชายาม The Verdant Afternoon Tea – New Collection ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อคลายร้อน เติมเย็นฉ่ำก่อนจิบชาด้วย เวอร์จิ้น พินาคาลาด้า  เกล็ดน้ำแข็งสีขาวละมุ่นที่ผสมผสานความสดชื่นของ น้ำมะพร้าว         น้ำสัปปะรด และน้ำมะนาว เสิร์ฟในดาร์กช็อกโกแลตที่ถูกดีไซน์ให้ดูละม้ายกะลามะพร้าวขนาดกระทัดรัด            สโคน อร่อยกับสโคนสูตรพิเศษทั้งคลาสสิคสโคนและสโคนช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมแยมสตรอเบอร์รี่ ค็อตเต็ทครีมชีส และเลม่อนเคิร์ด กรุ่นกลิ่นความหอมหวานกับเมนูของว่างยามบ่าย ไม่ว่าจะเป็น  แซลม่อนรมควันสไลด์ – แซลม่อนทาร์ท่าร์เสิร์ฟคู่กับครีมชีสและไข่ปลาแซลม่อน,  แซนวิชสลัดเนื้อปูและสตรอเบอร์รี่ – ที่นำขนมปังอบกรอบเสิร์ฟคู่กับสลัดเนื้อปูคลุกเคล้าซอสบาซามิคและสตรอเบอร์รี่สด,  ทาร์ตทูน่า – ที่ทาร์ตทูน่าหอมกรุ่น ท็อปปิ้งด้วยแตงกวาและไข่ปลาคาร์เวียร์,  ฟัวกราพาร์เฟ่ต์ – ที่เสิร์ฟฟัวกราเทอรีนโรยด้วยเมล็ดโกโก้บดผสมอัลม่อนด์บนแป้งแคร็กเกอร์อบ, ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย  พาร์ม่าแฮมและไก่ผงกะหรี่ – ความอร่อยที่ลงตัวระหว่างพาร์ม่าแฮมทอดทานคู่กับเนื้อไก่ผัดผงกะหรี่  ลิ้มลองเมนูของหวานและเบเกอรี่เพื่อเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็น   …

Read More

Chef : Ton : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ฤดูร้อนเดือนเมษายนมาถึงแล้ว ทุกคนมักจะคิดถึงเทศกาลข้าวแช่ ทาง Kinandleisure.com จึงอยากจะแนะนำอาหารว่างคลายร้อน สูตรตำรับชาววังให้ทุกท่านไปลิ้มลองกัน โดยเทศกาลข้าวแช่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น ที่ห้องอาหาร Smooth Curry ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ณ โรงแรม The Athénée A Luxury Collection Bangkok ห้องอาหาร สมูท เคอร์รี่ อาหารไทยตำรับดั้งเดิม นำโดยหัวหน้าพ่อครัวมากความสามารถและประสบการณ์ทำอาหารไทยมากกว่า 21 ปี ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เชฟพิถีพิถันกับทุกเมนูตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วทุกภาคของประเทศผสานกับเครื่องเทศของไทยปรุงด้วยสูตรตำรับดั้งเดิม ได้รับความนิยมจากผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ห้องอาหารถูกออกแบบในบรรยากาศสไตล์ไทยร่วมสมัย ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผนังสีเขียวมะกอกสลับกับสีขาวงาช้าง ไม้แกะสลักและภาพวาด คลอด้วยเสียงเพลงไทยพื้นบ้านเบา ๆ เพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหาร สามารถรองรับแขกได้ 12 คน จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ไทยแท้ๆ ตำรับชาววัง (Authentic Thai) รับรองว่ารสชาติถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแน่นอนครับ ความพิเศษของข้าวแช่ สูตรเชฟมนตรี คือความพิถีพิถันใส่ใจในวัตถุดิบทุกขึ้นตอน เริ่มจากการใช้ข้าวหอมมะลิออแกนิค 100% นึ่งสุก แช่ในน้ำเย็นลอยดอกมะลิและกระดังงา อบด้วยเทียนจนหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงครบตามแบบดั้งเดิม อาทิ หอมแดงสอดไส้ปลาช่อน ลูกกะปิทอด (สูตรเฉพาะของเชฟที่มีส่วนผสมของกระชายและมะพร้าว) พริกหยวกสอดไส้หมูผสมกับกระเทียมไทยและรากผักชี เนื้อหรือหมูฝอยหวาน ปลาช่อนแห้งผัดหวาน หมูเปีย ไข่วงเดือน และผักสด มาเริ่มจาก ข้าวแช่สมูทเคอรี่ – Chilled Jasmine Rice soaked in Flower Scented Water served with condiment (950++ baht per set) กันก่อนเลยครับ…

Read More

Chef : MarQuiS. : 03 2023 Story : Athiwat T . / Photo : Pol.Capt. Kittin A The Crystal Grill House – Asiatique สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ kinandlesiure.com จะพาทุกท่านไปชมพระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับร้านอาหารเปิดใหม่ที่สวยงาม และ เต็มไปด้วยเรื่องราวนั่นคือ The Crystal Grill House Asiatique ซึ่งเพิ่งจะ soft opening กันไปไม่นานนี้ ซึ่งพร้อมจะต้อนรับทุกท่านให้มาลิ้มลองบรรยากาศสุดพิเศษนี้ ตัวร้านจะตั้งอยู่ในโครงการ Asiatique ใน prime location คือ ระเบียงริมแม่น้ำของโครงการ ถ้าเดินทางผ่านมาทางเรือเดินเรียบริมแม่น้ำมาก็จะถึงตัวร้านได้ไม่ยาก แต่ถ้ามาจากบริเวณลานจอดรถก็สามารถเดินผ่านโซนชิงช้าสวรรรค์และม้าหมุนจะพบกับตัวร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ อีกจุดสังเกตคือร้านจะตั้งอยู่เยื้องจากบริเวณของเรือสิริมหรรณพ ร้าน The Crystral Gill House Asiatique ธีมหลักจะเป็นแบบ retro ช่วงยุค ค.ศ. 1900 ในบรรยากาศเมืองท่าที่หรูหรามั่งคั่ง ภายในตัวน้านแห่งนี้ได้แบ่งเป็นหลายโซน คือ โซนบาร์, โซน dinner โซน open kitchen และ มีไฮไลท์คือ พาวิเลียนของร้านที่ใช้เป็นห้องส่วนตัว โดยแต่ละพาวิเลียนจะตกแต่งเป็นธีมตามเมืองท่าต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเคยไปติดต่อด้วยตั้งแต่ในอดีตถึงห้าห้อง โดยจะไล่ตั้งแต่ ญี่ปุ่นที่ตกแต่งให้มีลวดลายแบบยุคเอโดะ ผ้า และ พัดโบราณสามารถนั่งได้เป็นกลุ่มใหญ่อย่างเป็นส่วนตัว, ถัดมาคือโซนเซี่ยงไฮ้ที่แตกแต่งโทนสีแดง เรียบหรู, ต่อมาถืออินเดีย ที่มีโคมไฟ และ สีสันที่สวยงาม, ถัดมาคือห้องเปอร์เซียที่รุ่มรวยไปด้วยไปด้วยอารยธรรม พร้อมเครื่องแก้วฉลุลายสวยงาม, ปิดท้ายด้วยนิวยอร์กที่เป็นสไตล์อเมริกันจ๋า ได้บรรยากาศของปาร์ตี้ Gatsby และ กลิ่นซิการ์ ซึ่งการมีห้องไพรเวทที่หลากหลายก็จะทำให้บรรยากาศการมาฉลองไม่ซ้ำซากจำเจ แต่ถ้านั่งด้านนอกก็จะได้บรรยากาศริมแม่น้ำ สะท้อนไฟ และสีเหลืองทองของร้าน ซึงบรรยากาศจะสวยตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน…

Read More

Chef :  Ma : 02 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับ kinandleisure.com review ครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับร้านอาหาอิตาเลียนระดับ fine dining ในตำนานของประเทศไทย นั่นคือ Enoteca Bangkok ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียน stand alone ร้านแรก ๆ ในไทยที่ทำให้พวกเราได้สัมผัสกับ อาหารอิตาเลียนระดับ fine dining ซึ่งถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมาเพียงใด ร้านนี้ก็ยังสามารถสร้างสรรค์เมนูเพื่อให้พวกเราได้เพลิดเพลินกันได้อย่างมีมาตลอดครับ Enoteca Enoteca Bangkok ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 27 ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งเมื่อเข้ามาในบริเวณร้านก็จะพบกับสวนอันอบอุ่นคอยต้อนรับเป็นบรรยากาศแรก ภายในตัวร้านจะแต่งแต่งสไตล์บ้านชาวอิตาเลียนที่ ตกแต่งอย่างอบอุ่นพร้อมไวน์ และ ของใช้ในบ้าน พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของขนมปัง เมื่อเดินเข้ามาก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกลับมาในร้านอาหารแถวบ้านที่เราคุ้นเคยมานาน แต่ก็ยังมีความโรแมนติกซ่อนอยู่ในรายละเอียดหลาย ๆ มุม คำว่า “Enoteca” สามารถแปลตรงตัวว่า Wine Library ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ดั้งเดิมของร้านที่ตอนแรกจะทำเป็นเพียงร้านไวน์ แต่ด้วยความต้องการของลูกค้าที่ได้มาลิ้มลองอาหารพร้อม ๆ กับไวน์แล้วเกิดติดใจจึงต้องปรับร้านเป็นร้านอาหาร ซึ่งอาหารที่เสิร์ฟในร้านแห่งนี้จะเน้นอาหารอิตาเลียนที่มีความละเอียดอ่อนของทั้งรสชาติ มีลุคที่ทันสมัยไม่น่าเบื่อ และ วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี Enoteca Seven Sins Menu ที่ Enoteca Bangkok แห่งนี้สามารถสั่งอาหารเป็น Ala Carte คู่กับไวน์ที่ท่านชื่นชอบได้ตามใจชอบ แต่สำหรับวันนี้เราได้เลือก tasting menu ในชื่อ Seven Sins เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับรสชาติของ Enoteca หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะเป็นการผสมผสานความอร่อยอาหารอิตาเลียนที่จะนำเสนออย่างสวยงามแบบอาหารฝรั่งเศส และมีจุดเด่นที่วัตถุดิบชั้นเลิศซึ่งดูได้ตั้งแต่จากขนมปัง และ น้ำมันมะกอก Bread ขนมปังของ ร้านจะเสิร์ฟสามชนิดคือ focaccia…

Read More

Chef :   hotel : 02 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Sindhorn Kempinski โรงแรมสุดหรูในเครือ Kempinski ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญในเรื่องของความเป็นเลิศทุก ๆ มิติ ได้รังสรรค์มื้ออาหารสุดพิเศษที่จะสร้างความประทับใจอีกระดับด้วย Sunday Brunch สุดพรีเมียม ในธีม “Extravaganza Sunday Brunch” Extravaganza Sunday Brunch ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป พร้อมเสิร์ฟอาหารจานโปรดและบรันช์สุดคลาสสิกจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเลสดใหม่  อาหารญี่ปุ่น อาหารอาหรับ อาหารอิตาเลี่ยน อาหารไทยต้นตำรับ และอื่นๆอีกมากมาย อิ่มอร่อยบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ในสไตล์สินธร เคมปินสกี้ ที่พร้อมให้บริการทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. ที่ห้องอาหารเฟลอริช (Flourish  Restaurant) ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เปิดให้บริการทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ พร้อมความสวยงามของแสงธรรมชาติ วิวสวนชีวา (Chevaa Garden) และครัวแบบเปิด ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูโปรด เมนูที่ค้ดค้นใหม่ หรือลิ้มลองรสชาติเมนูแบบดั้งเดิม มุมอาหารทะเลสด ๆ Seafood on Ice: ละลานตากับอาหารทะเล สด ใหม่ ที่เสิร์ฟบน ซีฟู้ด ทาวเวอร์ (Seafood Tower) ที่ไม่ว่าจะเป็น กุ้งจากแหล่งน้ำเย็นธรรมชาติ (Fresh cold-water prawns)  กุ้งล็อบสเตอร์จากประเทศแคนนาดา(Canadian Lobster) หอยนางรมฟิร เดอ แคลร์  (Fine De Claire Oyster) และหอยแมลงภู่ดำ (Black Mussels)…

Read More

Chef :  Eugenio Cannoni : 02 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A กลับมาอีกครั้งกลับเมนูฤดูหนาวของ La Scala ห้องอาหารอิตาเลียนชั้นเยี่ยมประจำโรงแรม The Sukhothai Bangkok ใน บรรยากาศร้านอันโทนดำทอง ที่อบอุ่นแต่ยังแฝงความหรูหรา พร้อมบริการชั้นเยี่ยม ซึ่งเมนูนี้ยังรังสรรค์โดยเชฟมากฝีมือคนเดิมนั่นคือ Eugenio Cannoni รสชาติเต็มปากเต็มคำ ผสานกับเทคนิคสุดแพรวพราวและวัตถุดิบชั้นเลิศสู่ New Winter tasting menu ต้องขอบอกเลยว่าแต่ละจานค่อนข้างทำให้แปลกใจ ไม่ได้เกิดจากการพ่นควันหรือสาดแสงแต่ว่าเทคนิคการปรุง ความลงตัวของซอส และการเลือกวัตถุดิบที่นำมาประกอบกันนั้นถือว่าแปลกใหม่ไม่เหมือนใครลงตัวสนุกและไม่น่าเบื่อ เรียกได้ว่าผ่านการคิดมาเยอะแต่กินง่าย กินเข้าปากสามารถประมวลผลได้ว่าอร่อยโดยไม่ต้องคิดมาก งานนี้รีวิวเต็มเราได้บรรยายละเอียดในทุกจานแน่นอน ต้องมากับเมนูฤดูหนาวของ La Scala, The Sukhothai Bangkok โดยในครั้งนี้ก่อนจะไปดูในส่วนของอาหาร เราขอพาทุกท่านไปชมความเปลี่ยนแปลงการตกแต่งภายในของห้องอาหารกันครับ ห้องอาหารมีการปรับแปลี่ยนการตกแต่งภายในห้องอาหารเล็กน้อย โดยเน้นไปที่แนวคิดหลักของห้องอาหารที่มุ่งเน้นให้ภาพความเป็นห้องอาหารที่ให้บริการ Fine dining ชัดเจน มีการย้ายเตาพิซซ่าไปยังห้องอาหาร colonate เพิ่มส่วนของห้องเก็บไวน์ และบาร์ขนมปัง รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่มีความสำคัญในแง่ mood and tone อย่างผ้าปูโต๊ะที่เป็นเป็นสีเมาเงิน โคมไฟสีขาวเรียวยาวบนโต๊ะที่ให้แสงไม่มืดและสว่างไป อีกทั้งแก้วน้ำเดิมจากสีดำแดงเป็นแก้วใสทรงเดิม Gastronomic Journey (7 Courses) Amuse Bouche หนึ่งจุดเด่นของเชฟ Eugenio คือ Amuse bouche ที่สวยงามในทุกคอร์สซึ่ง ครั้งนี้เชฟได้เสิร์ฟเป็น 3 คำ คือ McKerel ปลา mackerel รสชาตินุ่มนวลลายสวย Languistin Taco ชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ผมชอบมาก เนื้อแป้งกรอบอร่อยพร้อมกุ้งเนื้อหวาน ซึ่งตัวแป้งนั้นคือ Chickpeas bread ตรงกลางเป็น ตาร์ตาร์กุ้งลายเสือดิบสดๆ เคียงด้วยมายองเนสอัลยอลี (ailoi) ที่เป็นซอสกระเทียม…

Read More

Chef : Gerard Villaret Horcajo : 01 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ห้องอาหารนิมิตรช้้น 27 หนึ่งในอัญมณีที่ถูกซ่อนไว้กลางซอยสุขุมวิท เป็นห้องอาหารที่สวยงามอย่างเหนือความคาดหมาย เป็น Rooftop Restaurant ที่ให้บริการทั้งโซน Outdoor และ Indoor ในส่วนของโซน Outdoor ท่านจะเห็นทัศนียภาะเปิดโล่ง ไร้สิ่งใดขวางกั้น เหมาะสมที่ชมพระอาทิตย์ตกดินสุดแสนงดงาม อีกด้านของโซน Outdoor จะเป็น Bar เครื่องดื่มและสระว่ายน้ำ บริเวณตรงกลางทางเดินมีจุดน่าถ่ายรูปมากๆ โดยออกแบบเจาะรูตรงพื้นเป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 2 เมตร และปิดหน้าด้วยแผ่นอคริลิคใสที่แข็งแรง ควรค่าแก่การมานั่งถ่ายรูปและมองชม สำหรับโซน Indoor สวยงามยิ่งประดุจอยู่ในนิมิตรความฝัน ด้วยกระเบื้อโมเสคสีน้ำเงิน สูงโปร่ง กระจกแผ่นใหญ่ เห็นวิวกรุงเทพมุมเมืองสุขุมวิทสุดลูกหูลูกตา สวยงามอย่างมากโดยเฉพาะช่วงsunset และ twilight มุมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของ กรุงเทพฯ นอกจากพื้นที่แล้ว ของตกแต่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นแผงโลหะพรางตา หรือโคมไฟก็ล้วนเข้ากันไปเสียหมด มีส่วนของครัวเปิดให้แขกทุกท่านสามารถชมการปรุงอาหารได้อย่างสนุกสนาน อย่าลืมสั่ง 2 signature cocktail สำหรับบรรยากาศอันสวยงามcocktail gimlet 137มีเบสของจิน gin ปรุงรสด้วย cranberry syrup และ กลิ่น rose มีความหอมหวานละมุน รสชาติดีสมเป็นตัว signaturemambo no 3vodka cocktail ปรุงรสด้วย mango syrup พร้อมรสชาติหวานอมเปรี้ยว sweet and sour กลิ่นมะม่วงหอมตลอดจนหมดแก้ว เครื่องดื่มน้ำแร่ spraking ที่มาพร้อมกับมะนาวเหลือง lemon Amuse bouche tuna hummis ikura salmonเริ่มต้นมื้ออาหารกันด้วย เนื้อปลาแซลมอนเซียร์มาอย่างดี…

Read More

Chef : Gerard Villaret Horcajo : 01 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้ kinandleisure.com จะขอพาทุกท่านกลับไปยังห้องอาหาร Elements อีกครั้งเพื่ออัพเดทชุดเมนูใหม่ประจำฤดูกาลนี้ ที่บอกได้เลยว่ายกระดับความพิเศษของ Elements ไปอีกขั้น โดยเฉพาะในเรื่องของ texture และ presentation ที่หลากหลายมากขึ้นในเมนู จะพิเศษอย่างไรบ้างไปชมกันเลยครับ ห้องอาหาร Elements inspired by Ciel Bleu ห้องอาหาร Elements เป็น ห้องอาหาร fine dining ประจำโรงแรม The Okura Prestige ที่ยังคงคุณภาพความสุดยอดต่อเนื่องการันตีด้วย รางวัลดาว Michelin star ทำให้ Elements เป็นหนึ่งในห้องอาหารในโรงแรมเพียงไม่กี่แห่ง ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ในกรุงเทพฯ เมนูคอร์สที่โดดเด่นในสไตล์อาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งล่าสุด Chef de Cusine เจอราร์ด วิลลาเรท ฮอร์คาโญ (Gerard Villaret Horcajo) ซึ่งได้เข้ามาสร้างสรรค์เมนูใหม่ให้แก่ Elements ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอในเมนูฤดูใบไม้ร่วงสุดพิเศษไป แต่ในคราวนี้เชฟเซ็ตเมนูใหม่เรียกได้ว่ายกระดับไปอีกขั้น ซึ่งจะสร้างความอิ่มใจใน visual ของร้านที่งดงามและการบริการแบบเป็นกันเอง และ สดใส The Course สำหรับฤดูกาลนี้เชฟได้เตรียม main course ไว้บริการทั้ง Venison, Fukushima A5 Wagyu และ Duck ซึ่งวันนี้เราได้เลือก Venison และ Duck แสดงให้ทุกท่านเห็นพร้อม ๆ กับ Appetizer ใน courses ทั้งหมด พร้อมกับ…

Read More

Chef : Arnaud Dunand Sauthier : 12 2022 Story : Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Maison Dunand Maison Dunand ร้านอาหารของเชฟ Arnold (Arnaud Dunand Sauthier) ผู้คร่ำวอดในวงการอาหาร fine dining ของกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน ได้พิสูจน์ความยอดเยี่ยมทั้งรสชาติ ความประณีตทั้งอาหาร ตัวร้านและบริการ จนได้ Michelin star ภายในเดือนแรกของการเปิดตัว ซึ่ง kinandleisure.com จะขอนำทุกท่านมาลองชมบรรยากาศของร้านและเมนูว่ามีความพิเศษอย่างไรบ้าง บรรยากาศ ร้าน Maison Dunand แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสาทร 10 ซึ่งค่อนข้างกว้าง ทำให้การขับรถเข้ามาไม่ยากนัก สำหรับการจอดรถที่ร้านจะมีบริการ Valet ให้ไม่ต้องกังวล สำหรับตัวร้านเมื่อมองจากภายนอกจะเห็นรั้วสไตล์โมเดิร์น พร้อมให้เห็นสวนสีเขียวภายในเล็กน้อย พร้อมป้ายชื่อร้าน Maison-dunand ซึ่งเป็นร้านหลัก และ Alpea ซึ่งเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสไตล์บิสโตรและขายของชำที่นำเข้าจากฝรั่งเศสโดยเฉพาะ ส่วนของบ้านจะเป็นลักษณะบ้านโครงไม้ ที่ได้แรงบัลดาลใจจาก ชาเลต์ (Chalet) ซึ่งพบในภูมิภาคอัลไพน์ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีการผสมผสานฝรั่งเศสแถบซาวอยและสวิสเซอร์แลนด์ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง จากแสงธรรมชาติ อบอุ่นแต่ไม่อบอ้าว และ มีบรรยากาศของความผ่อนคลาย สำหรับการตกแต่งภายในก็เรียบง่าย แต่มี texture และ องค์ประกอบที่ยังมีความหรูหราอยู่สมกับเป็นร้านอาหาร fine dining นอกจากนั้นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย เช่น แจกันดอกไม้บนโต๊ะอาหาร ผ้าปูโต๊ะ หรือ ตะกร้าใส่กระเป๋าของลูกค้าก็ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีให้เข้ากับโทนและการตกแต่งโดยรวม เมนู สำหรับอาหารของ Maison Dunand ก็จะเป็นอาหารฝรั่งเศส โดยจะเน้นพื้นฐานและวัตถุดิบจากแถบซาวอย (Savoie) และผสมผสานเข้ากับประสบการณ์อันยาวนานของเชฟที่ได้เดินทางไปทั่วโลก คัดเลือกกลั่นกรอง นำมารังสรรค์เป็นเมนูที่เน้นทั้งเรื่องของรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ…

Read More