Author: Kittin Assavavichai

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศขยายระยะเวลาการเปิดให้บริการของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ไปตลอดปี 2561 โดยจะให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. เลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 16 เมษายน 2561 ระบุเพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้เวลากับการลงรายละเอียดของการออกแบบและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมได้อย่างเต็มที่ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ตามที่ ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์-ยู (Mixed-Use Development) นั้น หลังจากได้พิจารณาปัจจัยแวดล้อม และพิจารณาถึงความสำคัญในการให้เวลากับการลงรายละเอียดทั้งการออกแบบและการพัฒนาโครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จึงตัดสินใจเลื่อนการปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ออกไปจากกำหนดเดิม เป็นให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. ดังนั้น ในปี 2561 นี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะยังคงเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมโครงการนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มดุสิตธานี ที่ต้องการจะพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมที่ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยในส่วนของโรงแรม คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่นั่นเอง ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล วางแผนที่จะสร้างโครงการนี้ ให้มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ เหมือนดังเช่นที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เคยสร้างประวัติศาสตร์ไว้เมื่อ…

Read More

ทุกท่านคงต้องได้คุ้นเคยกับชุดชาแสนงดงามคุณภาพสูง ที่แปรเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาลของ The Okura Prestige Bangkok กันมาบ้างแล้ว แต่ในปีนี้ ทางโรงแรมได้มีแนวคิดใหม่สำหรับชุดน้ำชา นั่นคือแนวคิดดอกไม้ตามฤดูกาล ให้แขกทุกท่านได้ตื่นตา ตะลึงใจ เพลิดลิ้นเพลินใจ และในครั้งนี้ทาง kinlakestars ขอเสนอชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” ชุดน้ำชาชุดใหม่ต้อนรับปี 2561 ที่เชฟ เซบาสเตียน  ฮูแกแวร์ฟ (Chef Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวาน (Executive Pastry Chef) ได้รังสรรค์จากความงดงามของดอก “ซึบากิ” (Japanese camellias) ดอกไม้ญี่ปุ่นที่จะเบ่งบานอวดโฉมในช่วงอากาศหนาวเหน็บตลอดฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น โดยชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” จะมีให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ดอกซึบากิ (Tsubaki) หรือ ดอกคามิเลีย (Camellia) ในภาษาอังกฤษ เป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม และ มีหลายสี หลายรูปแบบ ดอกซึบากิ เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่สมบูรณ์แบบและอ่อนโยน มีประโยคหนึ่งที่กล่าวถึงความงดงามของดอก “ซึบากิ” สีแดงว่า “คุณเปรียบดั่งเปลวไฟในใจฉัน” ซึ่งดอกซึบากิในประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มเบ่งบานอวดโฉมในช่วงฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิในประเทศญี่ปุ่น เชฟ เซบาสเตียน จึงได้นำสีสันอันสวยงามของดอก “ซึบากิ” มาเป็นแรงบันดาลใจและออกแบบชุดน้ำชาชุดพิเศษ เพื่อให้บริการในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2561 อันเป็นช่วงเวลาที่ดอก  “ซึบากิ”  นั้นเบ่งบาน โดยเรามาเริ่มกันที่อาหารคาวในชุด ได้แก่ ขนมปังกรอบหน้าปลาแซลมอนรมควันโรยชีสริคอตต้าและอะโวคาโด้   ricotta tartine, avocado smoked salmon and และ กุ้งหมักน้ำส้มกับมะเขือและเยลลี่ส้ม marinated prawns with tomato and orange jelly  ขนมปังบริยอชไส้เนื้อเป็ดตุ๋นและแครนเบอร์รี่…

Read More

กลับมาอีกครั้งกับการปรับเปลี่ยนอย่างยาวนานถึงหกเดือน กับการพลิกโฉมให้หญิงสูงวัยกลับมาสง่างามอ่อนเยาว์อีกครั้ง ร้านอาหาร La Scala การกลับมาที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นร้านอาหาร Italian Fine Dining อันขึ้นชื่อ และเป็นหนึ่งในร้านในดวงใจของใครหลายคน ลาสกาล่าเปิดประตูต้อนรับแก่สาธารณชนเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2545 ซึ่งให้บริการอาหารอิตาเลียนสไตล์คลาสสิกแก่ผู้ชื่นชอบอาหาร สำหรับการปรับปรุงใหม่นี้เราขอมุ่งเน้นและเริ่มไปที่ในส่วนของการตกแต่ง ในการออกแบบตกแต่งภายในใช้ผู้ออกแบบและแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ ห้องอาหารนี้ยังมีเชฟผู้มีชื่อเสียงคอยมาเยี่ยมชม ร่วมรังสรรค์อาหารให้กับนักชิมท้องถิ่นและนักชิมระดับสากล จนทำให้ ลาสกาล่าเป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าเชฟมิชลินและคนดัง ” The Art of Dining ” ร้านอาหารตั้งแต่เปิดให้บริการมา มีแขกมากกว่า 220,000 คนจากทั่วโลกใน 15 ปีของการดำเนินงาน หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ La Scala ที่เปิดใหม่นี้ก็คือนวัตกรรมการออกแบบตกแต่งภายในจับคู่กับอาหารอิตาเลียนแรงบันดาลใจ เชฟ David Tamburini แนะนำเมนูที่มีให้  “อาหารอิตาเลียนเลิศรส”  ภายใต้แนวคิด สูตรอิตาเลียนแบบดั้งเดิมที่มีไหวพริบสร้างสรรค์ที่ไร้คู่แข่ง การทำอาหาร ที่รวบรวมสาระสำคัญของการรับประทานอาหารอิตาเลียนร่วมสมัย การออกแบบตกแต่งภายในแตกต่างจาก La Scala ใหม่ แสงสว่างที่ให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมและความทันสมัยในรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ ​​La Scala ใหม่เปล่งปลั่งและหรูหรา ซึ่งสะท้อนถึง ความสำเร็จของอดีต La Scala การออกแบบวาดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจของชื่อโรงละครโอเปร่า La Scala อันยิ่งใหญ่ในมิลานซึ่งเป็นแนวคิดสำหรับ La Scala ใหม่คือ “The Great Theatre for Marvelous Moments” ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะปลดปล่อยประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสเต็มรูปแบบของอาหาร การออกแบบ ความเย้ายวนใจ และการบริการ พื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นดั่งเวทีที่เพิ่มประสิทธิภาพของทีมการทำอาหาร เป็นดั่งลานแสดงของเชฟที่เปรียบให้เชฟนั้นเป็นนักแสดงนำของพวกเขา โคมระยิบระยับกระเบื้องโมเสก เติมเต็มบาร์ใหม่และห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ที่นำเสนอออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งครอบคลุมทั้งผนังที่เป็นหนึ่งในจุดโฟกัส เพื่อให้สอดคล้องกับรายละเอียดที่ทำให้ลาสกาล่า นั้นยิ่งดูพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่ารายการไวน์มีตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดจับคู่เมนูที่เสนอ ลักษณะการออกแบบที่มุ่งให้ความโดดเด่นที่สุดคือเพดานรูปไข่ตรงกลาง เค้าโครงที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นดั่งโรงละครโอเปร่า La Scala กับเสาสีดำทั้ง 5 ต้นที่เชื่อมต่อกับเพดานรูปไข่ปลายเปิด พื้นที่ครัว ความคมชัดของสีดำและบรรเทาแบบดั้งเดิมบนเสาที่นำเสนอปรับ ความสมดุลของความสว่างและความสมมาตรกับภาพสีโดยรวมที่ชวนให้นึกถึงการตกแต่งภายในของโรงละคร นอกจากนี้ยังมีห้องรับประทานอาหารส่วนตัวซึ่งตั้งอยู่บริเวณรับประทานอาหารหลักโดยมีหน้าต่างโปร่งแสง ที่มีพื้นที่ที่ปิดสนิทพร้อมแสงและโปร่งสบาย ผนังสีขาวของบริเวณแผนกต้อนรับส่วนหน้าและห้องครัวพิซซ่าอยู่ใน Bianco Carrara ซึ่งเป็นหินอ่อนที่มีชื่อเสียง มาจากอิตาลี ใช้เพื่อเน้นลักษณะเส้นแนวตั้งของสถาปัตยกรรมสุโขทัยและ ออกแบบมาเพื่อให้กลมกลืนกับความแตกต่างของภาษาอิตาเลียนของ…

Read More

เฉลิมฉลองริมน้ำอย่างมีระดับ Shangri-la bangkok งานเลี้ยงกาล่ามื้อค่ำริมสระน้ำ สระน้ำริมสวนสวยของโรงแรมฯ ได้รับการตกแต่งอย่างตระการ ด้วยดวงดาวระยิบระยับเปล่งประกายสีทองและสีเงินเจิดจรัสรับงานปาร์ตี้เฉลิมฉลองปีใหม่ เริ่มต้นค่ำคืนด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารไทยสุดอลังการ การแสดงอันน่าตื่นเต้นบนเวทีริมน้ำ จับฉลากลุ้นรางวัล ร่วมกันนับถอยหลังสู่ปีใหม่ และชมความงามของดอกไม้ไฟเหนือโค้งน้ำเจ้าพระยา ราคาท่านละ 13,650 บาทถ้วน โวลติ ต้อนรับปี 2561 อย่างมีสไตล์ที่ห้องอาหารอิตาเลียนกับเมนูเฉลิมฉลองสุดพิเษ 6 คอร์ส เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืน พนักงานจะนำท่านไปยังริมสระน้ำเพื่อร่วมกันนับถอยหลังและชมความสวยงามของดอกไม้ไฟที่สุดแสนตราตรึงใจ ที่บริเวณเทอร์เรซของโวลติจะบริการบุฟเฟ่ต์อาหารไทยเช่นเดียวกับริมสระน้ำ ห้องอาหารโวลติ ราคาท่านละ 9,500 บาทถ้วน และ โวลติ เทอร์เรซ ราคาท่านละ 13,650 บาทถ้วน เน็กซ์ทู คาเฟ่ เฉลิมฉลองค่ำคืนสุดท้ายของปี 2560 ด้วยบุฟเฟ่ต์อาหานานาชาติชั้นเลิศ พร้อมชมความบันเทิงจากเวทีริมสระน้ำที่ถ่ายทอดมาให้ชมผ่านทางทีวีจอยักษ์ ความตระการตาของดอกไม้ไฟเหนือลำน้ำเจ้าพระยาคือไฮไลท์สำคัญของค่ำคืนสุดพิเศษนี้ เน็กซ์ทู คาเฟ่ ราคาท่านละ 6,500 บาท และเน็กซ์ทู เทอร์เรซ ราคาท่านละ 10,000 บาทถ้วน ศาลาทิพย์ ลิ้มรสชาติอันน่าพิศวงของเมนูอาหารไทยชุดพิเศษในบรรยากาศเรือนไม้สักทองหลังงาม เรือนไทนริมน้ำนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมดอกไม้ไฟอันน่าตื่นตาตื่นใจ ศาลาทิพย์ ราคาท่านละ 6,500 บาทถ้วน และ ศาลาทิพย์ เทอร์เรซ ราคาท่านละ 9,500 บาทถ้วน เรือฮอไรซัน มวลหมู่ดาวนับพันแข่งกันพร่างพราวส่องสว่างอยู่บนฟากฟ้า เพื่อต้อนรับการมาของวันขึ้นปีใหม่ ความสุขความรื่นรมย์ยิ่งทวีคูณเมื่อฉลองค่ำคืนสุดพิเศษนี้บนเรือฮอไรซัน เพลิดเพลินกับการแสดงสด และเต็มอิ่มกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติชั้นยอด ราคาท่านละ 9,000 บาทถ้วน ล็อบบี้ เลาน์จ จุดที่เหมาะสำหรับการชมดอกไม้ไฟทั้งบนท้องฟ้าหรือสะท้อนเหนือผืนน้ำ พร้อมจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ชงอย่างพิถีพิถันโดยฝีมือของมิกโซโลจิสต์ ราคาท่านละ 1,800 บาท รวมเครื่องดื่มมาตรฐาน 2 แก้ว ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึงเที่ยงคืน บรั้นช์วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2561 เน็กซ์ทู คาเฟ่ เติมพลังรับปีใหม่ เริ่มต้นดี…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า รื่นรมย์กับช่วงเวลาแสนผ่อนคลายกับบุฟเฟ่ต์มื้อสาย ซึ่งท่านจะได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับความสุขอย่างเต็มอิ่มพร้อมหน้าครอบครัวและมิตรสหายขณะละเลียดอาหารมื้อพิเศษที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ราคาท่านละ…

Read More

อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ขอเสนอชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” ชุดน้ำชาชุดใหม่ต้อนรับปี 2561 ที่เชฟ เซบาสเตียน              ฮูแกแวร์ฟ (Chef Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวาน (Executive Pastry Chef) ได้รังสรรค์จากความงดงามของดอก “ซึบากิ” ดอกไม้ญี่ปุ่นที่จะเบ่งบานอวดโฉมในช่วงอากาศหนาวเหน็บตลอดฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น โดยชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” จะมีให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น ดอกซึบากิ (Tsubaki) หรือ ดอกคามิเลีย (Camellia) ในภาษาอังกฤษ เป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม และ มีหลายสี หลายรูปแบบ ดอกซึบากิ เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่สมบูรณ์แบบและอ่อนโยน มีประโยคหนึ่งที่กล่าวถึงความงดงามของดอก “ซึบากิ” สีแดงว่า “คุณเปรียบดั่งเปลวไฟในใจฉัน” ดอกซึบากิในประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มเบ่งบานอวดโฉมในช่วงฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิในประเทศญี่ปุ่น เชฟ เซบาสเตียน จึงได้นำสีสันอันสวยงามของดอก “ซึบากิ” มาเป็นแรงบันดาลใจและออกแบบชุดน้ำชาชุดพิเศษ เพื่อให้บริการในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2561 โดยมีขนมหวานแนะนำ อาทิ เค้กกลิ่นชาดอกซึบากิ แยมโรลไส้ครีมรสส้มยูซุ ช็อคโกแลตทรัฟเฟิลไส้ถั่วอัลมอนด์ โมจิรสชาเขียว เค้กมองบลังค์กลิ่นชาซึบากิสอดไส้เยลลี่รสแบล็คเคอร์เเรนท์ พายรูบาร์บ สโคนสตรอว์เบอร์รี่และช็อกโกแลตขาวอบสดใหม่ทุกวัน และที่ขาดไม่ได้คือมาการองพิมพ์ลายดอก “ซึบากิ” ส่วนอาหารคาว ได้แก่ ขนมปังกรอบหน้าปลาแซลมอนรมควันโรยชีสริคอตต้าและอะโวคาโด้ ขนมปังบริยอชไส้เนื้อเป็ดตุ๋นและแครนเบอร์รี่ ขนมปังไรย์ไส้มะเขือม่วงรมควันประดับด้วยมะเขือเทศและใบโหระพา เป็นต้น ชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” นี้ สามารถเลือกรับประทานเคียงคู่กับชามาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) ชาคุณภาพเยี่ยมสัญชาติฝรั่งเศส ชาซาโร (Saro) ชาดอกบัวเลิศรส หรือกาแฟชั้นดีหอมกรุ่น…

Read More

ท่องอารยธรรมอาหารพื้นเมืองของชาวซิซิเลียน (SICILIAN) โดยฝีมือมิชลินสตาร์เชฟ วินเซนโซ แคนดิเอโน ( CHEF VINCENZO CANDIANO)  บินตรงจากห้องอาหารระดับมิชลิน 2 ดาวในอิตาลี สู่ห้องอาหารโจโจ ในวันที่ 6 ถึง 11 ธันวาคม 2560   ในครั้งนี้ Kinlakestars.com ขอนำเสนอความยอดเยี่ยมในการปรุงอาหารของเชฟวินเซนโซ แคนดิเอโน (Vincenzo Candiano) ที่ได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียงจาก Locanda Don Serafino ห้องอาหารอิตาเลียนหรูระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาวจากเมืองซิซิลี พร้อมรังสรรค์มื้ออาหารกลางวันและมื้อค่ำที่น่าจดจำ ภายใต้บรรยากาศที่หรูหราสไตล์ห้องอาหารโจโจ ในวันที่ 11 ถึง 16 ธันวาคม 2560 วินเซนโซ เชฟชาวซิซิเลียน เน้นคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบท้องถิ่นและปลาจากเมดิเตอร์เรเนียน นำเสนอศิลปะการทำอาหารเชิงสร้างสรรค์ และรสชาติอันโดดเด่น สะท้อนถึงประเพณีและวัฒนธรรมของซิซิลีและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมของชาวซิซิเลียนในยุคอดีตที่เรียกว่า Hyblean Locanda Don Serafino ห้องอาหารหรูระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาวในเมืองรากูซ่า (Ragusa) เป็นเมืองในชนบทที่สง่างามและตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซิซิลี (Sicily)ได้รับยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น รวมทั้งอารยธรรมอาหารสไตล์ดั้งเดิม ผสมผสานศาสตร์การปรุงอาหารของชาวซิซิเลียนให้สอดคล้องกับวัตถุดิบท้องถิ่นถ่ายทอดผ่านเมนูของเชฟวินเซนโซ เชฟวินเซนโซและทีมพ่อครัวห้องอาหารโจโจ พร้อมรังสรรค์มื้ออาหารกลางวันและมื้อค่ำที่น่าจดจำ แต่ละเมนูมีการจับคู่ไวน์ที่ถูกเลือกและจับคู่ได้อย่างลงตัวโดยซอมเมอลิเย่ร์แห่งเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ อาหารของวินเซนโซสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวเองทั้งความอ่อนน้อมถ่อมตนและความหลงใหลในการปรุงอาหารอย่างแท้จริงเฉกเช่นเมืองรากูซ่าอันเป็นที่รักของเขา ที่สืบทอดประเพณีอันยาวนาน เป็นแหล่งกำเนิดวัตถุดิบและผลผลิตท้องถิ่น และการปรุงอาหารแบบประยุกต์ คงใช้ส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ครีเอทเมนูอาหารที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งทำให้เมนูอาหารสมบูรณ์แบบและเข้าถึงรสสัมผัสของเมนูอาหารพื้นเมืองได้ง่าย เชฟอธิบายอย่างถ่อมตัวว่า “ฉันชอบห้องครัวของฉันในแบบสบายๆและเรียบง่าย” แม้อาหารของเขาจะดูเรียบง่ายแต่เข้าถึงศิลปะการทำอาหารท้องถิ่นอย่างแท้จริง พบกับวินเซนโซ ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ห้องอาหารโจโจ เตรียมมอบความประทับใจของเมนูอาหารเปี่ยมด้วยรสชาติอาหารอิตาเลียนดั้งเดิมให้คุณได้ลิ้มลอง Beef tartare (Beef tartare with smoked buffalo mozzarella foam, Jerusalem artichoke and carrot chips, radish Feudo Maccari) สำหรับเมนูอุ่นเครื่องจานแรก เนื้อวัวสดที่ผ่านการทำให้ละเอียดด้วยการใช้มีดสับ ไม่ใช่การใช้เครื่องบด จึงทำให้สัมผัสนั้นมีความละเอียดต่างกันไป รสหวานจากเนื้อสดกับรสมันจากมอสซาเรล่าชีสจากนมควายเข้ากันได้ลงตัว และรสมันๆสดชื่นๆจากแก่นตะวัน ซึ่งเป็นพืชที่ให้รสคล้ายแห้วหรือมันแกวนั้นเอง มีสัมผัสกรุบกรอบจากแครอททอดกรอบ รวมๆแล้วเป็นจานที่ให้ความสดชื่น…

Read More

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่เกิดเดือนธันวาคม พิเศษสุด! รับส่วนลดเท่าอายุ สูงสุด 100%  บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน จันทร์ – เสาร์ (ปกติ 1,200 บาทสุทธิ/ท่าน) บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ อาทิตย์ – พฤหัสบดี (ปกติ 1,900 บาทสุทธิ/ท่าน) ที่ห้องอาหารเน็กซ์ทู คาเฟ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ วันที่ 1 – 30 ธ.ค. 60 สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โทร. 02 236 9952 Special Offer at Shangri-La Hotel, Bangkok NEXT2 Café Enjoy a dining discount equivalent to your age up to 100%! International Lunch Buffet Mon. – Sat. (normal price THB 1,200 NET/person) International Dinner Buffet Sun. – Thur. (normal price THB 1,900 NET/person) 1 – 30 Dec 17 For reservation Shangri-La Hotel, Bangkok Tel. 02 236 9952  ดูโปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรมราคาพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC อื่นๆ คลิก โปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรม โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์โรงแรม หมายเหตุ: โปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ (Shangri-La Hotel, Bangkok) ส่วนลดสำหรับบัตรเครดิต…

Read More

เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีกันแล้ว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับชุดชาเพื่อการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริงที่ อัพแอนด์อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) บาร์บนชั้น 24 ของ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) สถานที่จิบน้ำชายามบ่าย พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูง Kinlakestars.com ขอแนะนำชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ให้บริการตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2560 เท่านั้น   ในช่วงเดือนสุดท้ายแห่งปี เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Chef Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวาน (Executive Pastry Chef) ได้ตั้งใจ บรรจงรังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข มีทั้งอาหารคาวและหวานน่ารับประทานมากมาย สำหรับอาหารคาวในชุดประกอบไปด้วย แซนวิชไก่งวงรมควันครีมชีสและแครนเบอร์รี่ กับทาร์ทแป้งกรอบพร้อมแซลมอนรมควันและลูก caper ชีมอสซาเรลลาสด มันๆรสเบาๆสบายปาก และมะกอกเขียวรับประทานกับแฮมกรอบปลาแซลมอนรมควันและผักฮอสแรดิช (ฮอสแรดิช คือ พืชตระกูลกะหล่ำ มีไขมันต่ำ เส้นใยสูง พบในแถบชายฝั่งทะเลยุโรป) ซุปมันฝรั่งหวานหวานมันหอมกรุ่น ส่วนขนมในชุดออกแบบให้สีเข้ากันกับช่วงเทศกาลมาก ประกอบไปด้วย เค้กเรดเวลเวท   โมจิไส้ครีมรสเรดเวลเวท ซึ่งก้อนนี้บอกเลยว่าแป้งโมจินั้น หนึบ นุ่ม อร่อยมาก แต่งด้วยช็อกโกแลตขาวทำเป็นรูปเกล็ดหิมะด้านบน ทาร์ตสตรอเบอร์รี่ มาการองพิมพ์ลายต้นคริสต์มาส แยมโรลครีมและเชอร์รี่ที่มีสีสันสมกับเป็นขนมเพื่อช่วง Festive โดยเฉพาะ คัสตาร์ดเชอร์รี่ สโคนที่ใส่ผลแครนเบอร์รี่เข้าไปในเนื้อสโคนแสนหอมกรุ่น พิเศษ อภินันทนาการเครื่องดื่มประจำเทศกาลคริสต์มาส ได้แก่ มอลด์ไวน์ (Mulled wine) ไวน์ต้มกับเครื่องเทศ รสหวาน หอมกินง่ายซึ่งปกติจะนิยมดื่มกันในช่วงคริสมาสต์ และมีจำหน่ายกันในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ณ ตลาดคริสมาสต์ตามแถบยุโรปทั้งในประเทศเยอรมนี และประเทศกลุ่มเขตสแกนดิเนเวียร์ เอ้ก น็อค (Egg Nog) ซึ่งมีส่วนผสมของ นม ครีมและไข่ ให้บริการเป็นพิเศษสำหรับทุกท่านที่มารับประทาน ชุดน้ำชายามบ่ายสำหรับเทศกาลแห่งความสุข เชฟ ฮูแกแวร์ฟ แนะนำให้ดื่มชาโนเอล…

Read More

เฉลิมฉลองช่วงเทศกาลแห่งความสุขแบบแหวกแนวไม่เหมือนใคร กับอาหาร Festive style ญี่ปุ่นต้นตำหรับแบบชาววังญี่ปุ่นแท้ๆ จากวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาลส่งตรงจากญี่ปุ่น   ครั้งนี้ ทาง Kinlakestars.com ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายรายการ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีกันที่ ห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) ที่จะมีให้บริการระหว่างวันที่ 4 – 30 ธันวาคม 2560 (ยกเว้นวันที่ 24 และ 25 ธันวาคม 2560)   เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ(Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัวชาวญี่ปุ่นประจำห้องอาหารยามาซาโตะ (Master Chef) ได้รังสรรค์เมนูเป็นพิเศษเพื่อจัดเป็นอาหารชุด “เฟสทีฟ ไคเซกิ” (Festive Kaiseki) อาหารชุดมื้อค่ำเพื่อให้บริการในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ระหว่างวันที่ 4 – 30 ธันวาคม 2560 ยกเว้น วันที่ 24 และ 25 ธันวาคม 2560 ที่เชฟ ฮางิวาระ ได้เตรียมอาหารชุดพิเศษมื้อกลางวันและมื้อค่ำสำหรับให้บริการในวันคริสต์มาสอีฟและวันคริสต์มาส อาหารทุกชนิดไม่เพียงแต่ได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันเท่านั้นหากแต่ยังถูกตกแต่งให้งดงามและมีสีสันน่ารับประทานตามแบบฉบับของอาหารญี่ปุ่น “เฟสทีฟ ไคเซกิ” อาหารชุดมื้อค่ำ ราคาท่านละ 4,500++ บาท ประกอบไปด้วย ฟองเต้าหู้กับกระเจี๊ยบญี่ปุ่นตับปลามังค์ฟิช กุ้ง และลูกพลับย่างราดซอสเผ็ดมิโซะ เรามาเริ่มต้นกันด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกกันเลย ในจานเล็กๆใบนี้ประกอบไปด้วย ฟองเต้าหู้ ซึ่งเป็นเต้าหู้เหนียวนุ่ม หนึบ homemade กับกระเจี๊ยบญี่ปุ่นตับปลามังค์ฟิช รสมันๆนุ่มๆอร่อยมากๆ กุ้ง และลูกพลับย่างที่มีรสหวานหอมเบาๆราดซอสเผ็ดมิโซะ รสออกกลมกล่อม ซุปเกี๊ยวไข่หอยเม่น สำหรับซุปนี้ รสกลมกล่อมด้วยซุปที่มีดาชิเป็นฐาน รสหอมกลมกล่อม ตัวเด็ดของที่อยู่ในซุปนี้ก็คือเกี้ยวไข่หอยเม้น ซึ่งทำมาจากเนื้อปลาบด ปรุงรสจนกลมกล่อม ปลาดิบชั้นดี 4 ชนิด (ปลาทูน่า, ปลาทรายแดง, ปลาหางเหลือง และกุ้งหวาน) ปลาดิบชั้นเลิศ 4 ชนิด จัดมาในจานอย่างงดงาม พร้อมการประดับประดาจากดอกไม้ และบรรดาผักแกะสลัก ประกอบไปด้วย ท้องปลาทูน่า, ปลาทรายแดง, ปลาหางเหลือง…

Read More

ขอแสดงความยินดีกับร้านอาหารที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินเป็นครั้งแรกของประเทศไทย Le Normandie at The Mandarin Oriental Hotel – 2 ดาวมิชลิน Mezzaluna at The Lebua Hotel – 2 ดาวมิชลิน Gaggan – 2 ดาวมิชลิน Bo.lan – 1 ดาวมิชลิน Chim by Siam Wisdom – 1 ดาวมิชลิน Nahm at The Como Metropolitan – 1 ดาวมิชลิน Elements at The Okura Prestige – 1 ดาวมิชลิน Ginza Sushi-Ichi – 1 ดาวมิชลิน J’AIME by Jean-Michel Lorain – 1 ดาวมิชลิน Jay Fai – 1 ดาวมิชลิน L’Atelier de Joël Robuchon – 1 ดาวมิชลิน Paste – 1 ดาวมิชลิน Saneh Jaan – 1 ดาวมิชลิน Savelberg at The Oriental Residence – 1 ดาวมิชลิน Sra Bua by Kiin Kiin at The Siam…

Read More