Author: Kittin Assavavichai

เชฟ “ธีโอ แรนดอลล์” วันที่ 15 – 16 มิถุนายน 2561 นี้ ต้อนรับการกลับมาเยือนไทยอีกครั้ง! โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ขอเชิญชวนทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยที่จะทำให้ประจับใจไม่รู้ลืม กับดินเนอร์อาหารอิตาเลียนสุดคลาสสิค รังสรรค์โดยเชฟ ธีโอ แรนดอลล์ (Theo Randall) เซเลบริตี้ เชฟ ชื่อดังจากเกาะอังกฤษ italian cuisine, fine dining, huanin, หัวหิน, Theo Randall,italian cuisine, fine dining, huanin, หัวหิน, Theo Randall ,italian cuisine, fine dining, huanin, หัวหิน, Theo Randall ผู้มีประสบการณ์การทำอาหารมากกว่า 25 ปี โดยเคยทำงานในร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกหลายแห่ง รวมถึงร้าน Chez Panisse ในสหรัฐอเมริกา ร้าน River Café ในกรุงลอนดอนซึ่งเขามีตำแหน่งหัวหน้าเชฟ และล่าสุดกับการเปิดร้านอาหารอิตาเลียนระดับพรีเมี่ยม “ธีโอ มีโอ” แห่งแรกในต่างประเทศ ณ โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อปี 2015 เอกลักษณ์การปรุงอาหารของเชฟธีโอ จะเน้นการหาวัตถุดิบคุณภาพสูงในท้องถิ่นแล้วนำมาสร้างสรรค์เมนูอาหารอิตาเลียนในแบบดั้งเดิม ที่โชว์ความเรียบง่าย ด้วยการดึงเสน่ห์ของรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบนั้นๆออกมาได้อย่างงดงาม สำหรับเมนูพิเศษสำหรับการเยือนไทยในครั้งนี้ เชฟจะรังสรรค์ 5 คอร์สเมนู อาทิ ฟัวกราส์ และตับไก่ กับซอสมาซาร่า เสิร์ฟพร้อมเบคอนรวมควันสไตล์อิตาเลียน และบรูสเกต้า (Bruschetta), พาสต้าล็อบสเตอร์ เสริ์ฟพร้อมอิตาเลียนอาร์ติโช๊ค (Artichoke) และอีกหลายเมนูจานหลัก รวมถึงของหวานที่พลาดไม่ได้คือ สตรอเบอรี่กับมาสคาโปนครีม และ อัลมอนด์ เสิร์ฟพร้อมไวน์ชั้นเลิศทุกเมนู ข้อมูลตืดต่อ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท เชิญมาดื่มด่ำกับอาหารมื้อค่ำสไตล์อิตาเลียนสุดพิเศษ โดยฝีมือเซเลบริตี้…

Read More

โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ชวนดับกระหายคลายร้อนท่ามกลางอุณหภูมิอันร้อนระอุ ด้วยชุดน้ำชายามบ่าย Lavender Delight สีม่วงที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมจรุงใจของดอกลาเวนเดอร์ สัญลักษณ์แห่งฤดูร้อน ซึ่งดอกลาเวนเดอร์มีน้ำมันหอมระเหยอันเป็นที่มาของรสหวานหอมละมุนละไมแบบเฉพาะตัว โดยในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมนี้ บริเวณล็อบบี้ เล้าจน์ ทุกท่านจะได้เพลินใจกับรสชาติแห่งฤดูร้อนสีม่วงสดใสกับชุดชายามบ่าย Lavender Delight ที่บริการคุณทั้งคุกกี้ โรลลาเวนเดอร์ คัสตาร์ดเบอร์รี่ ทาร์ตมัลเบอร์รี่ เค้กมาเบิ้ลลายหินอ่อน มาการองบลูเบอร์รี่ สโคนลาเวนเดอร์ และอื่นๆอีกมากมาย เลือกดื่มเคียงคู่กับรายการกาแฟ หรือชา อาทิ ชาซิลเวอร์ จูบิลี่ ที่สรรสร้างขึ้นมาเพื่อคนพิเศษอย่างคุณ ณ โรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ ปาร์ค กรุงเทพฯ โดยเฉพาะ ขอเชิญทุกท่านร่วมจิบน้ำชายามบ่ายท่ามกลางบรรยากาศแห่งความประทับใจ โดยชุดน้ำชา Lavender Delight พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 12:00 – 18:00 น. ณ ล็อบบี้ เล้าจน์ ราคา 999++ บาท สำหรับสองท่าน (รวมชาหรือกาแฟ) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งกรุณาติดต่อที่ โทร. +66 (0) 2 059 5999 หรืออีเมล์ [email protected] หรือ www.bangkokmarriotmarquis.com kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ…

Read More

ปัจจุบันการติด wallpaper เป็นเทรนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ลาย wallpaper ใหม่ๆที่ออกใหม่มาเรื่อยๆตามเทรนการออกแบบในปัจจุบัน ด้วยความสวยงาม หลากหลาย และติดตั้งง่าย สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เวลาน้อย ยิ่งคอนโดการจ้างช่างทาสีย่อมเป็นเรื่องยุ่งยากมากกว่าการติด wallpaper แต่รู้ไหมว่าใต้ความสวยงามนี้น่ากลัวเพียงใด ตามการศึกษาทางการแพทย์ล่าสุดพบว่า มีสารพิษหลายชนิดจากเชื้อราที่อาจถูกปล่อยออกสู่อากาศภายในบ้านและแหล่งที่มาอาจเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ใน wallpaper นี้เอง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง สารพิษจากเชื้อราที่มาจากวอลล์เปเปอร์ เป็นที่มาที่ทำให้ผู้อาศัยภายในอาคารเกิดการเจ็บป่วย  จากภาพคือเชื้อราบนผนังที่อยู่ใต้วอลล์เปเปอร์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันไม่ต่ำกว่า 3 ชนิด เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคบนโลก เชื้อราเหล่านี้เป็นเชื้อพื้นฐาน เชื้อเหล่านี้อาศัยอยู่กับวอลเปเปอร์ที่ใช้ในครัวเรือน นักวิจัยได้ทำการศึกษาและพบว่า เชื้อราตามผนังสามารถเติบโตและกระจายไปในอากาศได้ ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่ผลกระทบสุขภาพร้ายแรง ผลกระทบจากการถ่ายทอดเชื้อราในอากาศและสารพิษเหล่านี้ต่อสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งเชื้อเหล่านี้ค่อยๆออกจาก wallpaper โดยที่มนุษย์เรามองไม่เห็น นักวิจัยกล่าว สารพิษที่ปล่อยออกมาจากเชื้อราที่อยู่ใต้ wallpaper นี้เรียกว่า mycotoxins พวกมันสามารถก่อให้เกิดมลพิษในอากาศภายในอาคารและนำไปสู่มลพิษทางอากาศในอาคาร สภาพที่เรียกว่า Sick building syndrome (ภาวะผิดปกติด้านสุขภาพทางตา จมูก ลำคอ การหายใจส่วนล่าง ผิวหนังและอาการทั่วไปที่เกิดขึ้นคล้ายกัน ในกลุ่มคนทำงานในอาคารสำนักงาน) Jean-Denis Bailly, ศาสตราจารย์ด้านสุขศาสตร์อาหารของโรงเรียนสัตวแพทย์แห่งชาติตูลูสประเทศฝรั่งเศส (Food hygiene at the National Veterinary School of Toulouse in France) กล่าวในแถลงการณ์งานประชุมวิชาการว่า Mycotoxins เหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวจากวัสดุ wallpaper ซึ่งเป็นแหล่งเพาะตัวของการเจริญเติบโตของเชื้อรา ในที่สุดพวกเขาก็สูดดมโดยอาศัยอยู่ในบ้าน หรืออาคารที่ทำงานนั้นๆ ในขณะที่การตรวจสอบคุณภาพของอากาศภายในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านที่มีการปนเปื้อนเชื้อราที่สูงขึ้น คุณภาพอากาศภายในอาคารยังต้องได้รับการทดสอบสำหรับสารพิษจากเชื้อรา ซึ่งผลการวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารจุลชีววิทยาประยุกต์และสิ่งแวดล้อมของ American Society for Microbiology ตามที่นักวิจัยได้มีการศึกษาอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการปนเปื้อนเชื้อราของอาหาร อย่างไรก็ตามมีการทำงานวิจัยไม่มากนักในแง่ของสารพิษจากเชื้อราในอากาศ สำหรับการศึกษาครั้งนี้พวกเขามองไปที่เชื้อราทั้ง 3 ชนิดที่ปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ Penicillium brevicompactum, Aspergillus versicolor และ Stachybotrys chartarum ในชิ้นส่วนของวอลล์เปเปอร์พบว่ามีการปนเปื้อนกับเหล่าเชื้อราเหล่านี้ อากาศสามารถไหลผ่านวอลล์เปเปอร์และตัวอย่างของอากาศของห้องถูกเก็บรวบรวมเพื่อสำหรับการทดสอบ เมื่อวิเคราะห์อากาศภายในห้อง นักวิจัยพบว่าอนุภาคขนาดเล็กของฝุ่นละอองลอยอยู่รอบตัวในบ้าน ซึ่งสามารถสูดดมได้ง่ายมีสารพิษจากเชื้อราเหล่านี้ นอกจากนี้เชื้อราทั้งหมดยังไม่แพร่กระจายสารพิษในอัตราเดียวกันกับที่พบ บางตัวอย่างที่เก็บข้อมูลมาได้พบว่ากระจายสารพิษมากกว่ากรณีกลุ่มตัวอย่างอื่นๆ  แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของเชื้อราภายใต้…

Read More

เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เชิญทุกท่านเปิดประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายรสเลิศ ‘Qeelin Afternoon Tea’ นำเสนอแรงบันดาลใจจากจิวเวลรี่ดีไซน์ร่วมสมัยในคอลเลกชั่นกูตูร์แสนประณีตจากแบรนด์เครื่องประดับสุดหรูจากเมืองน้ำหอม ‘ชีลิน’ (Qeelin) ณ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม ทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00น. ถึง 17.00น. ตลอดเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมนี้ ‘ชีลิน’ (Qeelin) เครื่องประดับที่นำเรื่องราวตำนานเล่าขานเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความโชคดีในแต่ละด้านของชาวจีนมาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบ สร้างสรรค์โดยจิวเวลรี่ดีไซเนอร์ชาวฮ่องกงฝีมือดี เดนนิส ชาน (Dennis Chan) โดยแต่ละคอลเลกชั่นสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความโดดเด่นของความเป็นตะวันออกและประวัติศาสตร์อันแสนงดงามของประเทศจีน ซึ่งตอบโจทย์หญิงสาวผู้รักในความทันสมัย สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ และชื่นชอบในความยูนีคไม่เหมือนใคร สัมผัสความรื่นรมณ์ยามบ่ายด้วยการจิบชาหอมกรุ่นจาก TWG ลิ้มรสนานาเมนูคาวหวานแสนอร่อยที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกท่านประทับใจ อาทิ บอสตันล็อบสเตอร์ต้มยำในขนมปัง พัฟมูสตับเป็ด นอร์วีเจียนแซลมอนมัสตาร์ดน้ำผึ้ง รวมถึงเมนูไฮไลท์ของชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษที่แต่งแต้มด้วยสีสันอันงดงามอย่างสีดำ และสีแดง ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ชีลิน (Qeelin) ได้เป็นอย่างดี ส่วนสีทองนั้นสื่อถึงความมั่งคั่ง ประกอบด้วยของหวานรสชาติกลมกล่อมหลากชนิด ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่นอันเลื่องชื่อของแบรนด์ อาทิ พายราสเบอรี่ช็อคโกแลตเฮเซลนัทเข้มข้น ที่นำเสนอแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่น ‘วู ลู’ (Wu Lu) ออกแบบโดยใช้รูปทรงน้ำเต้าซึ่งมีสัญลักษณ์คล้ายเลขนำโชคเลข 8 ของชาวจีน ที่เชื่อว่าจะนำความโชคดีมาให้สำหรับผู้ที่สวมใส่ ถัดมาที่ช็อคโกแลตมูสเค้กชาโคลเนื้อนุ่ม ที่เลือกหยิบแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่น ‘โบ โบ้’ (Bo Bo) เครื่องประดับรูปทรงหมีแพนด้าซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของชาวตะวันออก ตัวแทนแห่งความสงบสุขและมิตรภาพ อีกหนึ่งความน่าสนใจกับ ความอร่อยที่ลงตัวของมูสเค้กส้มแมนดารินผสานกับความหอมละมุนของกาแฟ เผยถึงเเรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่น ‘แวง แวง’ (Wang Wang) เครื่องประดับดีไซน์เรียบโก้ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองปีจอ โดยชาวจีนมีความเชื่อว่าสุนัขนั้นจะช่วยเพิ่มพลังแห่งชีวิต ชุดน้ำชายามบ่าย ‘Qeelin Afternoon Tea’ สำหรับสองท่านเสิร์ฟในราคาพิเศษเพียง 1,800 บาท++ ณ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม ให้บริการทุกวัน เวลา 14:00น. – 17:00น. ตั้งแต่วันที่ 1…

Read More

บินลัดฟ้าจากสิงคโปร์สู่ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ เชฟรับเชิญ ม๊ก กิ๊ด คว่อง การันตีด้วยตำแหน่งเชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว  จะมาโชว์ฝีมือการปรุงอาหารจีนกวางตุ้งสไตล์โมเดิร์น พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าประทับใจที่ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ โรงแรม     แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 12 มิถุนายน 2561 ด้วยเอกลักษณ์การปรุงอาหารอันโดดเด่นบวกด้วยประสบการณ์มากกว่า 35 ปี ทำให้เชฟ ม๊ก ได้มีโอกาสแสดงฝีมือการปรุงอาหารถวายแด่กษัตริย์แห่งโมร็อกโก ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย นายกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์ รวมถึงบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงทั่วโลก เชฟม๊กเชี่ยวชาญด้านการผสมผสานศิลปะและกลิ่นอายความทันสมัยเข้าไปในขั้นตอนการตกแต่งอาหาร นำมาซึ่งอาหารจีนจานพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เชฟม๊กยังได้รังสรรค์เมนูแปลกใหม่ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมกว่า 20 เมนู             แขกสามารถลิ้มลองอาหารจานเด่นของเชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว อาทิ ปลาคอดอบไข่ขาวและกังป๋วย เป๋าฮื้อออสเตรเลียเจี๋ยนน้ำแดง หมูแดงเลิศรส ปลิงทะเลยัดไส้กุ้ง ตับห่านราดด้วยซอสเป๋าฮื้อ ซุปไก่ตุ๋นรังนกพิเศษ และขานกกระทาทอดกระเทียมกรอบ ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่จานละ 380++บาท ถึง 8,880++บาท            สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร.   0 2236 7777   หรือ 0 2236 9952   หรือ อีเมล [email protected]     หรือสำรองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ที่ https://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/ shang-palace/book-a-table/ kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส…

Read More

แอตติจูด รูฟท้อป บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ นำกระแสอาหารมังสวิรัติแบบไฟน์ ไดนิ่ง ด้วยมื้ออาหารมังสวิรัติสุดเอ็กคลูซีฟที่ใช้พืชผักเป็นวัตถุดิบหลัก จับคู่กับไวน์ชั้นดีในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2561 นี้ ด้วยการร่วมมือกับเชฟ ฌอง คริสเตียน จูรี ผู้เชียวชาญด้านอาหารมังสวิรัติที่เดินทางไปทั่วโลก นับเป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯที่มีการนำเสนอมื้ออาหารมังสวิรัติแบบเอ็กคลูซีฟ พร้อมวิวท้องฟ้าที่สวยงามแห่งเมืองหลวง เชฟ ฌอง คริสเตียน จูรี เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากเมืองตูลูส Toulouse ประเทศฝรั่งเศส มีความเชียวชาญด้านอาหารมังสวิรัติสมัยใหม่และอาหารแบบใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุง นอกจากนั้นยังเป็นผู้เขียนหนังสือ “Vegan : The Cookbook” อีกด้วย แรงบันดาลใจของเขามาจากการค้นพบเกี่ยวกับสุขภาพของเขาเอง ในการทำงานที่ห้องอาหารที่กรุงลอนดอนอันพลุกพล่าน ฌอง คริสเตียน ได้ประสปกับภาวะหัวใจล้มเหลวอันเป็นผลมาจากกาทำงานอย่างหนักและการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เหตุการณ์นั้นเองทำให้ เชฟ ฌอง คริสเตียนหันมาศึกษาการปรุงอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่ และอาหารมังสวิรัติ เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ในปี พ.ศ.2550  เขาได้เปิดร้านอาหารมังสวิรัติแห่งแรก La Mano Verde ในกรุงเบอร์ลิน และในปัจจุบันเชฟ ฌอง ผู้ใช้ชีวิตอยู่ที่ ลอส แองเจลลิสนั้น ได้เดินทางทั่วโลกเพื่อสำรวจอาหารมังสวิรัติในแต่ละท้องที่ และความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าการเป็นมังสวิรัติไม่ใช้เรื่องของการล้มเลิกทุกสิ่ง สุขภาพของเขาที่ดีขึ้นและการใส่ใจสิ่งแวดล้อมทำให้อาหารมังสวิรัติเป็นที่รู้จักในเวทีอาหารโลก รสชาติ ลวดลายและสีสันผสมผสานกันได้อย่างไม่มีที่ติ ในขณะเดียวกันวัตถุดิบอันอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เมื่อมองไปถึงการบริโภคแห่งอนาคต อาหารทางเลือกใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้ช่วยพัฒนาวิถีชีวิตของเรา ให้ความเคารพธรรมชาติและสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง อาหารแต่ละจานนั้นผ่านการบรรจงปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้อาหารที่บริสุทธิ์ เชฟ ฌอง คริสเตียนยบรรจงสรรค์สร้างรูปลักษณ์ของอาหารแต่ละจานให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พร้อมรังสรรค์รสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิบธรรมชาติอีกด้วย เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยซุปกัซปาโชผักโขมและอโวคาโด และจานอาหารสุขภาพอย่างสลัดหน่อไม้ทะเลคลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดที่ผสมผสานจากขมิ้น มะพร้าวและขิง ตามด้วยราวิโอลี โคลราบิ สอดไส้ครีมเม็ดมะม่วงหิมพานต์เสิร์ฟพร้อมสลัดแอปเปิ้ลเขียว ผักชีล้อม ขิง และใบมิ้นต์ สำหรับคนรักซุกินี พลาดไม่ได้กับสปาเกตตี้ซุกินีที่ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ วอลนัท และใบโหระพา โรยด้วยชีสมังสวิรัติ อิ่มอร่อยต่อกับเบอร์เกอร์เห็ดหอมชีสที่คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี สำหรับคนรักชีส เชฟได้เตรียมชีส กา มอง แบร์ แบบมังสวิรัติเสิรฟพร้อมกับขนมปังฝรั่งเศส และปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวานสุดคลาสสิคอย่างชีสเค้กสามรส ที่เติมแต่งรสชาติให้น่าสนใจด้วยผลไม้อย่าง ราสเบอร์รี่ ช็อกโกแลตชีสเค้ก วานิลลาพลัมชินามอนชีสเค้ก และมะม่วงวานิลลาชีสเค้ก อาหารและของหวานทั้งหมดนี้เสิร์ฟพร้อมไว้ออการ์นิคจากฝรั่งเศส สเปน และ…

Read More

Akira Back Restaurant and Bar นิยามใหม่กับตำรับอาหารเอเชีย เกาหลี ผสาน ญี่ปุ่น ด้วยจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของการรับประทานอาหารที่รายล้อมด้วยวิวขอบฟ้าของกรุงเทพฯ สวยงาม สร้างสรรค์ กินง่าย ถูกปากคนไทยแน่นอน ห้องอาหาร อาคีรา เเบค เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ (Akira Back Restaurant and Bar) ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) นำเสนอความพิเศษระดับโลกครั้งใหม่จาก อาคีรา เเบค เชฟเกาหลีที่เติบโตในอเมริกาพร้อมด้วยดีกรีรางวัลที่กำลังจะสร้างนิยามใหม่ให้กับตำรับอาหารเอเชีย ห้องอาหาร อาคีรา แบค เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่บนชั้น 37 ของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค  และพร้อมจะพาเหล่านักชิมออกเดินทางไปบนเส้นทางสายอาหารอันเปี่ยมด้วยรสชาติและความล้ำเลิศ โดยเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงเท่านั้น พร้อมกับทีมเชฟที่ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูนวัตกรรมอันแสนร่วมสมัย ล้วนสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมและการเดินทางส่วนตัวของเชฟอาคีรา แบค กับสไตล์อันทันสมัยของศาสตร์การทำอาหารสุดสร้างสรรค์ น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยสีสัน ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบของญี่ปุ่นและเกาหลี เข้ากับอิทธิพลสากลอื่นๆ  ภายใน อาคีรา แบค เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวไว้ด้วยสี่พื้นที่แตกต่างกัน ประกอบไปด้วย พื้นที่รับประทานอาหารหลัก ซูชิบาร์โอมากาเสะ บาร์ และห้องรับประทานอาหารส่วนตัวทั้งหมดสี่ห้อง พร้อมด้วยวิวอันน่าทึ่ง ณ เส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ที่มองเห็นได้ผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่จากพื้นถึงเพดาน โดยในหลากหลายพื้นที่เหล่านี้ยังชวนให้นึกถึงร้านดาวมิชลินชื่อดังของ อาคีรา แบค ในกรุงโซล, ประเทศเกาหลี ห้องอาหาร อาคีรา แบค เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ สามารถรองรับเหล่านักชิมได้จำนวน 100 ท่านในเวลาเดียวกัน ซึ่งรวมไปถึง 40 ท่านภายในห้องรับประทานอาหารส่วนตัวทั้งสี่ห้อง เชฟอาคีรา แบค  ซึ่งเป็นอดีตโปรสโนว์บอร์ด และเอ็กเซกคิวทีฟเชฟแห่งร้านอาหารของ โนบุ…

Read More

สายลม แสงแดด สองคำนี้มักได้ยินกันเสมอมา แม้ดูธรรมดาแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อยู่อาศัยสบายหรือไม่อยากอยู่เลยทีเดียว ทิศทางกับการอยู่อาศัยนั้นสำคัญมาก แค่หมุนเปลี่ยนทิศชีวิตก็เปลี่ยนได้ หากลองดูงานวิจัยที่ได้ทำการเก็บข้อมูลจากการใช้งานเหมือนกันของพื้นที่หนึ่งแต่อยู่กันคนละทิศ ท่านเชื่อหรือไม่ว่าการสิ้นเปลืองพลังงานแตกตางกันอย่างลิบลับ ในบทความนี้เราขอเริ่มต้นด้วยแสงและความร้อน ส่วนเรื่องแสงกับการมองเห็นและลมจะตามมาในบทต่อๆไปครับ 1. ประเทศไทย พระอาทิษย์อ้อมใต้เป็นหลัก + ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าพระอาทิตย์ไม่ได้วิ่งจากตะวันออกไปยังตะวันตกอย่างเป็นเส้นตรง และในแต่ละประเทศเองก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับพิกัดที่ตั้ง ไทยเองเป็นประเทศเหนือเขตเส้นศุนย์สูตรและต้องการลดความร้อนเป็นหลัก ดังนั้นอาคารในไทยจึงควรพยายามหลีกเลี่ยงวางด้านยาวอาคารให้หันหน้าเข้าหาทิศตะวันออกและทิศตะวันตก  เนื่องจากจะมีแสงแดดร้อนจัดในเวลาบ่าย ทำให้ผู้อยู่อาศํยร้อน สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าในการใช้เครื่องปรับอากาศ จากการโคจรและที่ตั้งของไทย ทำให้สรุปได้คร่าวๆว่าทิศใต้และทิศตะวันตก ถือเป็นทิศที่ร้อนสำหรับการอยู่อาศัย 2. การหันตัวอาคารที่ควรจะเป็นของอาคารในไทย เปลี่ยนแกนตามยาวของอาคารให้หันด้านสกัดของอาคารอยู่ทิศตะวันตก เพื่อลดความร้อนจากแสงแดดยามบ่าย 3. พื้นที่มันบังคับ ช่วยไม่ได้ แก้อย่างไร สภาพที่ดินไม่เอื้ออำนวยต่อการวางแนวอาคารแบบข้อ 2 โดยจำเป็นต้องวางอาคารตามแนวยาวขนานกับถนนและเป็นทิศตะวันตก ให้ใช้วิธีให้ร่มเงาแก่อาคารแก้ปัญหาแดดส่องอาคาร – ให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นอยู่ด้านทิศตะวันตก เพื่อบังร่มเงาแก่อาคาร แต่ระวังต้นไม้ที่รากชอนเป็นอันตรายต่อตัวอาคาร หรือปลูกใกล้ตัวอาคารเกินไป 4. จัดพื้นที่ใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละทิศ ไม่ใช่ว่าพอเราทราบว่าทิศตะวันตกกับทิศใต้ร้อนแล้วจะต้องปล่อยเป็นพื้นที่โล่งใช้อะไรมิได้ หรือใช้ทำได้เพียงห้องเก็บของ แต่ เราต้องวิเคราะห์ว่าเราต้องใช้พื้นที่อะไรเวลาไหน และ วางมันลงใหม่เหมาะสม เช่น ห้องนอน ไม่ควรอยู่ด้านทิศตะวันตก เพราะ ทิศตะวันตกสะสมความร้อนมาตลอดช่วงบ่ายยันมืด พออากาศเย็นตัวลงความร้อนที่สะสมตามพื้นตามผนังก็คายตัวออกมา พื้นที่อยู่อาศัยในห้องนั้นก็ไม่ต่างจากน้ำเย็นที่โดนเอาเหล็กร้อนๆโยนลงมา ต่อให้ใช้ระบบปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศก็ต้องทำงานหนักกว่าปกติ กลายเป็นอยู่อาศํยไม่สบายแถมสิ้นเปลืองพลังงานและเปลืองค่าไฟ หรือ ถ้าปกติห้องทำงานเราใช้ในเฉพาะช่วงเช้า ช่วงกลางวัน การจัดห้องทำงานไปอยู่ในทิศตะวันตกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หรือ ห้องน้ำ ซึ่งมีความชื้นสูง และเราต้องการความร้อนอยู่แล้ว การเอาห้องน้ำไปไว้ทิศตะวันตก เปิดหน้าต่างเสียหน่อยก็ดีทีเดียว ทีนี้เราคงเข้าใจแล้วสินะครับว่าถ้าซื้อคอนโด ควรซื้อที่อยู่ฝั่งทิศไหน ถ้าไม่ได้ติดเรื่องทัศนียภาพ และใช้อยู่อาศัยหลับนอนเป็นหลัก ทิศตะวันตกคงไม่เหมาะแน่ๆ สรุปง่ายๆคือ เอาพื้นที่ใช้งานที่ต้องใช้ในช่วงบ่าย ช่วงกลางคืนหลบออกไปจากทิศตะวันตกและทิศใต้ ในหลายๆอาคารเราจะเห็นว่ามีการนำเอาพื้นที่เก็บของ ห้องน้ำรวม และลิฟท์มาไว้ในทิศตะวันตกของอาคาร หรือถ้าให้ดี ทิศตะวันตกเองควรเป็นผนังที่มีฉนวนหรือความหนากว่าผนังอื่นๆ ในส่วนของการแก้ไขด้วยแผงบังแดดเราจะกล่าวในข้อต่อไป 5. กันสาดแต่ละทิศมีผลต่อชีวิตนะคุณ การติดตั้งแผงกันแดด รับมือด้านทิศตะวันออก : แดดในทิศตะวันออกจะอุดมไปด้วยวิตามินดี โดยเฉพาะช่วงก่อน 9 โมงเช้า หลังจากนั้นจึงควรป้องกัน การติดตั้งแผงบังแดดในทิศตะวันออกนี้จึงควรป้องกันแดดในมุมสูง การติดตั้งแผงกันแดด รับมือด้านทิศตะวันตก…

Read More

ในครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับ “สตรีทฟู้ดและซีฟู้ด” ทุกคืนวันเสาร์ ณ เน็กซ์ทู คาเฟ่ ซึ่งรับรองได้ว่าไม่เคยมีโรงแรมห้าดาวแห่งไหนในกรุงเทพฯเคยทำมาก่อนในแนวคิดราคาแบบนี้ ที่จัดเต็มสารพัดร้านดังยกร้านกันมา และซีฟู้ดคุณภาพสูงสุดพรีเมียม โดยราคาปกติของผู้ใหญ่เริ่มต้นเพียง 888 บาท อิ่มเอมและสัมผัสกับความอร่อยแบบยั้งไม่อยู่ของสตรีทฟู้ดและซีฟู้ดระดับห้าดาว ทุกคืนวันเสาร์ ที่ เน็กซ์ทู คาเฟ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2561 เป็นต้นไป คืนวันเสาร์ที่เน็กซ์ทู คาเฟ่ รวบรวมความอร่อยจาก 5 ร้านสตรีทฟู้ดเลื่องชื่อของกรุงเทพฯ ซึ่งเปรียบเสมือนอัญมณีที่ซ่อนเร้นให้เฉพาะคนท้องถิ่นได้ชื่นชม และอาหารนานาชาติหลากหลายปรุงจากอาหารทะเลหลากชนิด ละลานตากับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลระดับพรีเมียม เลือกอร่อยได้ไม่จำกัดกับ เมนล็อบสเตอร์ หอยนางรม ขาปูยักษ์ หรือฟินไปกับอาหารจากร้านสตรีทฟู้ดชื่อดัง ได้แก่ ประจักษ์เป็ดย่าง, โจ๊กปรินซ์, โกอ่างข้าวมันไก่ ประตูน้ำ, ข้าวขาหมูเจริญแสง สีลม  และก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่วรจักร อาหารจากสองร้านสตรีทฟู้ดที่เมื่อแวะเวียนมาย่านบางรักแล้วต้องลิ้มรสได้แก่ ประจักษ์เป็ดย่าง ร้านนี้ ประจักษ์เป็ดย่าง เป็นร้านอาหารเก่าแก่ขนาดเพียงแค่ 1 คูหาในย่านบางรัก ซึ่งมีความเป็นมาย้อนอดีตกลับไปได้ตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2452 รวมแล้วมีประวัติยาวนานถึง 108 ปีเลยทีเดียว การที่ร้านอาหารสักร้านจะอยู่ยั้งยืนยงมาได้เนิ่นนานขนาดนี้ ความอร่อยย่อมจะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ เป็ดย่างสไตล์กวางตุ้งในตำนานที่สืบทอดสูตรจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลามากกว่า 100 ปี ย่างได้หอมมาก ทั้งน้ำซอสก็รสดี เนื้อเป็ดนุ่ม หนังกรอบไร้มัน เคล็ดลับทีเด็ดคือเลือกเป็ดคัดเกรด การหมักด้วยเครื่องเทศและเครื่องปรุงรส แล้วราดด้วยน้ำผึ้งก่อนจะนำไปย่าง และ โจ๊กปรินซ์ ร้านนี้โจ๊กอร่อยร้านดังแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ที่หาไม่ง่าย แต่เมื่อได้ลิ้มลองก็จะรู้ว่าอร่อยสมคำร่ำลือและคุ้มค่าที่ตามหา โจ๊กเนื้อ เนียนนุ่มต้มจากปลายข้าวชั้นดี ใส่หมูสับก้อนโต หอมกลิ่นเตาถ่านอันเป็นเอกลักษณ์ เลือกทานร้อนๆ กับไข่ลวกหรือไข่เยี่ยวม้าได้ตามใจชอบ ร้านอาหารรางวัล “บิบ กูร์มองด์” โดยมิชลินไกด์กรุงเทพฯ 2561 ที่มอบรสชาติโจ๊กเนียนนุ่มพร้อมใส่หมูสับก้อนโต เครื่องในหรือไข่ตามชอบ พร้อมหอมกลิ่นเตาถ่านอันเป็นเอกลักษณ์ ที่อยู่คู่ถนนเจริญกรุงมานานกว่า 50 ปี อีกสองร้านสตรีทฟู้ดที่มีรางวัล “บิบ กูร์มองด์” การันตีความอร่อย ซึ่งเน็กซ์ทู คาเฟ่ คัดสรรมาเสิร์ฟได้แก่ โกอ่างข้าวมันไก่ ประตูน้ำ ร้านนี้ โด่งดังข้ามน้ำข้ามทะเลจนมีสาขาเปิดไปไกลถึงญี่ปุ่นทีเดียว กว่า…

Read More

ในวันที่ 23 พฤษภาคม ศกนี้ เชฟ Andrea Ortu จาก La Bottega จะร่วมสร้างสรรค์มื้ออันน่าจดจำกับ Chef Nino Scognamillo จาก La Casa Nostra เพื่อนำเสนออาหารมื้อค่ำ 6 มื้อที่มีไวน์ Nals Margreid South Tyrolean อันสร้างมาหลายชั่วอายุคน และทำด้วยความชำนาญระดับมืออาชีพ ของครอบครัวที่ปลูกองุ่นได้ผสานเข้ากับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมไวน์ของ Nals Margreid Winery Chef Andrea Ortu from La Bottega has teamed up with Chef Nino Scognamillo from La Casa Nostra to showcase a 6 courses dinner featuring Nals Margreid South Tyrolean wines. For generations, the intuition and professional expertise of the winegrowing families have merged into the Nals Margreid Winery’s living tradition and wine culture. เมื่อคุณจ่ายเงินจำนวน 2,700 Bath คุณก็จะได้พบกับอาหารเลิศรสจับคู่กับไวน์ชั้นเยี่ยม ได้แก่ Canape on arrival served with Champagne STARTERS Nals Margreid Pinot Grigio 2016 Mediterranean…

Read More